ลมหายใจเฮือกสุดท้ายของสายการบินประเทศไทย “7 สายการบิน” ยื่นทวงถามซอฟท์โลนรัฐบาล 5 พันล้าน และมาตรการช่วยเหลือ เพื่อพยุงธุรกิจเเละชีวิตพนักงานเกือบสองหมื่นคน หลังยื่นพิจารณามาเเล้วกว่า 478 วัน แต่เรื่องยังเงียบ
เมื่อวันที่ 21 ก.ค.64 สมาคมสายการบินประเทศไทย นำโดยนายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ นายกสมาคมฯ และคณะกรรมการของ 7 สายการบิน จัดประชุมนัดพิเศษในรูปแบบ Virtual Conference หลังถูกระงับบินชั่วคราวตามคำสั่งของ ศบค. ตั้งเเต่วันนี้ (21 ก.ค.64) โดยออกเเถลงการณ์ร่วม เพื่อติดตามความคืบหน้าเรื่องสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) ที่ทางรัฐบาลจะจัดสรรให้กับสายการบินทั้ง 7 สาย โดยทางสมาคมฯ ได้ยื่นเอกสารไปตั้งเเต่การระบาดของโควิด-19 รอบเเรก (มี.ค.63) และมีการติดตามอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ทางสมาคมฯยังได้เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 ส.ค.63 เพื่อร้องขอให้เร่งพิจารณาในเรื่องดังกล่าว ทางสมาคมฯได้ส่งหนังสือติดตามล่าสุดอีกครั้งเมื่อเดือนพ.ค.64 ที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบนก็ยังคงไม่ได้รับการพิจารณาจากรัฐบาล รวมเป็นระยะเวลากว่า 478 วัน ตั้งแต่วันแรกที่ทางสมาคมฯยื่นหนังสือ
ล่าสุดสมาคมฯได้ปรับลดตัวเลขวงเงินการขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) รวมของทั้ง 7 สายการบิน จากจำนวน 2.4 หมื่นล้านบาท (จากการยื่นขออนุมัติครั้งเเรกเมื่อเดือนมีนาคม 2563) เหลือเพียง 5 พันล้านบาท เพื่อใช้ในการรักษาการจ้างงานพนักงานสายการบินทั้ง 7 สาย รวมเกือบ 2 หมื่นคน ในครึ่งปีหลังของปี 2564
จากมาตรการรัฐบาลล่าสุดในการจำกัดการเดินทาง ส่งผลต่อการระงับการให้บริการชั่วคราว ในทุกเส้นทางบินเข้าออกพื้นที่สีเเดงเข้ม ตั้งเเต่วันนี้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ปัจจุบัน 7 สายการบิน มีเครื่องบินที่ต้องจอดนิ่งรวมกว่า 170 ลำ และมีค่าใช้จ่ายในส่วนของเงินเดือนพนักงานทั้งสิ้นรวมกว่า 900 ล้านบาทต่อเดือน นอกจากนี้ ยังมีต้นทุนด้านการปฏิบัติการบินและการบำรุงรักษาเครื่องบินอีกจำนวนมหาศาล ซึ่งทางสมาคมฯ ประเมินว่าอาจจะเเบกรับภาระไม่ไหว หากไม่ได้รับมาตรการช่วยเหลือเเละเยียวยาจากภาครัฐโดยเร่งด่วน และอาจส่งผลต่อการกลับมาให้บริการในอนาคตของสายการบิน
ทั้งนี้ ทางสมาคมฯ โดย 7 สายการบิน จึงเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งพิจารณามาตรการความช่วยเหลือสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) อย่างเร่งด่วน เพื่อช่วยประคองธุรกิจสายการบินเเละการจ้างงานพนักงาน รวมทั้งเพื่อช่วยลดผลกระทบความเสียหายต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจเเละท่องเที่ยวภาพรวม เนื่องจากสายการบินคือธุรกิจด่านหน้าสำคัญ ที่เชื่อมต่อให้เกิดการกระจายเเละสร้างรายได้ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศ
“ตลอดกว่าหนึ่งปีครึ่ง นับตั้งเเต่การเเพร่ระบาดของโควิด-19 สายการบินทั้ง 7 สาย ได้พยายามอย่างเต็มที่ในการช่วยเหลือตัวเองเเละปรับตัวเพื่อประคองธุรกิจให้รอดจากสถานการณ์อันยากลำบากครั้งนี้ เรายังมีความหวังว่ารัฐบาลจะช่วยเร่งดำเนินการอนุมัติซอฟท์โลนโดยเร็วที่สุด เพราะนี่คือลมหายใจเฮือกสุดท้ายของสายการบินแล้ว” นายพุฒิพงศ์กล่าว