“มั่นคง” รู้ทัน “ม็อบไล่ลุงตู่” หวังก่อจลาจล

การแพร่ระบาดของโควิดยังไม่ลดลง ก็มีเรื่องการชุมนุมของกลุ่มคนที่เห็นต่างต้องการไล่นายกรัฐมนตรีให้ลาออก ทางฝ่ายความมั่นคง รู้ทันเย้ยเนื้อหาสาระไม่มี เอามันส์กับสนุก ป่วนเข้าไว้ หวังให้เกิดการจลาจล ส่งลูกให้ฝ่ายค้านอภิปรายในสภา  

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ TheKeyNews  ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 14 ส.ค.64 ตัวเลขการติดเชื้อโควิด-19 ยังพุ่งสูงขึ้นและอาจจะสูงขึ้นไปอีก ซึ่งคนไทยทุกคนดูแลตัวเองกันเต็มที่ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงในเวลานี้คือ กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองที่กลุ่มเห็นต่างออกมากดดันและขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้ลาออกจากตำแหน่งบ่อยขึ้น

@@@…….การจัดกิจกรรมชุมนุมของกลุ่มผู้เห็นต่างที่ออกมาเคลื่อนไหว ฝ่ายความมั่นคง มองว่า การเคลื่อน ไหวของกลุ่มผู้เห็นต่างนับวันจะส่อไปในทางก้าวร้าว รุนแรงมากขึ้นโดยเห็นได้จากการชุมนุมที่ผ่านมา การควบ คุมมวลชนไม่เป็นไปโดยเอกภาพ และไม่สามารถควบคุมมวลชนได้แม้จะบอกว่ายุติการชุมนุมแล้วก็ตาม อีกทั้งยังคงปรากฏการยั่วยุ และการปะทะระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ จึงมีความเป็นไปได้ว่า การจัดกิจกรรมในครั้งต่อไป จะมีการจัดกิจกรรมทั้งรูปแบบ Car Mob หรือการเดินเท้าแต่ยังคงไว้ซึ่งรูปแบบความรุนแรง เพื่อให้เกิดเป็นเงื่อนไขในการขยายผลปลุกระดมผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในระยะต่อไป

@@@……ฝ่ายความมั่นคง คาดหมายว่า กลุ่มคนที่จับจ้องล้มล้างรัฐบาล ล้มสถาบัน กำลังปรับกลยุทธ์กันใหม่ เนื่องจากยุทธศาสคร์ของแกนนำรุ่นใหม่ที่ผ่านมาคลุมเครือ ขาดความชัดเจน ไม่มีพลัง และกำลังล้มเหลว จึงอาจต้องมีการปรับวิธีการใหม่ ๆ ด้วยการดึงแกนนำรุ่นเก่ามืออาชีพเข้ามาแทน ลดความก้าวร้าวต่อสถาบันลงบ้าง โดยไปให้น้ำหนักที่การเข้าตีภาวะผู้นำฝ่ายบริหารของภาครัฐ ซึ่งก็คือ นายกรัฐมนตรีให้มากกว่านี้ ด้วยการสร้างประเด็นความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดินให้มากขึ้น 

@@@……จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ และจำนวนผู้เสียชีวิตจากประชากร 1 ล้านคนของประเทศไทย ยังไม่อาจชี้ได้ว่ารัฐบาล “ลุงตู่” ล้มเหลวแต่อย่างใด การรีบให้สั่งเลิกชุมนุมของแกนนำออกสื่อ เป็นเพียงเทคนิคในทางคดี และเพื่อเป็นสัญญาณให้มวลชนที่นิยมความรุนแรงอาวุธครบมือทั้งระเบิดปิงปอง ประทัดยักษ์ หนังสติ๊กลูกแก้ว หัวน็อต และอื่น ๆ เริ่มปฏิบัติการนั่นเอง ขณะที่กลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังนั่งดูทีวีเพื่อประเมินผลอยู่ที่บ้าน .. ที่เหลือให้กลุ่มฝ่ายค้านในรัฐสภาฯ สานงานต่อไป ซึ่งฝ่ายความมั่นคงเชื่อว่า ผลลัพธ์สุดท้ายก็จะไม่ต่างไปจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่ผ่านมา

@@@……อีกประมาณปีกว่า ๆ เท่านั้น การเลือกตั้งรอบต่อไป ก็กำลังจะเกิดขึ้น ต้นปีหน้าตลาดวัคซีนจะกลายเป็นของผู้ซื้อ สถานการณ์น่าจะค่อย ๆ คลี่คลายไปได้ในอีกไม่นานเกินรอ  ฝ่ายความมั่นคง ยังคงเชื่อมั่นในความรัก ความสามัคคีของประชาชนคนในชาติ และไม่เชื่อในการขยายความขัดแย้งเพื่อผลการเมืองอันเป็นความต้องการเทียม เพื่อประเทศชาติจะยังจะคงเดินหน้าต่อไปได้ 

@@@……อย่างไรก็ตาม จะเห็นว่าการชุมนุมที่เกิดขึ้นไร้เนื้อหาสาระ เอาความมันส์กับสนุกไปกับการจลาจลเท่านั้น เป็นภารกิจป่วน แล้วส่งต่อให้พรรคฝ่ายค้านในสภาตอกซ้ำต่อด้วยการเพิ่มปัญหาความรุนแรงในบ้านเมือง นอกเหนือจากการแพร่ระบาดของโควิด เศรษฐกิจ เพื่อล้มรัฐ ล้มสถาบัน ให้จงได้ .. ซึ่งไม่น่าจะสำเร็จ เพราะมวลชนกฎหมู่ น้อยเกินไป .. คนไม่พอใจม็อบมากเกินไป หมายถึงประเด็นทางการเมืองอ่อนเกินไป พรรคฝ่ายค้านอ่อนแอเกินไป และแผนงานปลุกม็อบด้วยความเกลียดชังอ่อนเกิน .. มีแต่ความวุ่นวายที่หยาบคาย ไม่สร้างประโยชน์แก่ประชาชนเลย เพียงเกิดประโยชน์กับกลุ่มการเมืองบางกลุ่มเท่านั้น

@@@……นอกจากนี้ ฝ่ายความมั่นคง ยังมองว่า พรรคฝ่ายค้านพยายามสร้างแรงเสียดทานต่อการดําเนินมาตรการด้านสาธารณสุขของรัฐบาลด้วยการนํากรณีที่มีการเสนอร่าง พ.ร.ก.จํากัดความรับผิดชอบสําหรับบุคลากรสาธารณสุข มาวิพากษ์วิจารณ์ บิดเบือนเจตนารมณ์ในการออกกฎหมายดังกล่าว ให้สังคมเข้าใจว่ารัฐบาลใช้บุคลากรทางการแพทย์เป็นเครื่องมือ เพื่อประโยชน์ของบุคคลในรัฐบาล ทั้งนี้ ประเด็นดังกล่าวอาจถูกนําไปเป็นส่วนสําคัญที่จะใช้กล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กําลังจะมีขึ้น

@@@……กลับมาที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ประชุมติดตามการบูรณาการและขับเคลื่อนการบริหารจัดการชายแดนในห้วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ของจังหวัดชายแดนภายใต้ศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านจังหวัด ได้ให้หน่วยงานด้านความมั่นคงบูรณาการการปฏิบัติภายใต้กลไกศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ติดตามสถานการณ์ในประเทศเมียนมาอย่างใกล้ชิด และเตรียมแผนรองรับผู้หนีภัยความไม่สงบจากประเทศเมียนมา รวมทั้งการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเหมาะสม กำชับและกวดขันข้าราชการและเจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต หรือมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดอย่างเด็ดขาด  

@@@……พล.อ.เฉลิมพล  ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เป็นประธานการประชุมผู้บัญชา การเหล่าทัพ ครั้งที่ 5 โดยมี ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมประชุมณ ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้กล่าวขอบคุณเหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ให้การสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  (COVID-19) ที่ผ่านมาอย่างเต็มขีดความสามารถ รวมทั้งได้เน้นย้ำให้ดำรงความพร้อมในการสนับสนุนศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) และกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะการสนับสนุนกำลังพลยุทโธปกรณ์ และบุคลากรทางการแพทย์ในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม และการเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อ COVID-19

@@@……จากการสอบคัดเลือกนักเรียนเตรียมทหารในส่วนของกองทัพบก ประจําปี 2564 ซึ่งนายธนากรทองหนูนุ้ย นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช จ.อุบลราชธานี สอบได้อันดับที่ 1 ของ 3 เหล่าทัพ คือเหล่าทหารบก ,ทหารเรือ และทหารอากาศ และยังสอบได้ท่ี 8 ในส่วนของสํานักงานตํารวจแห่งชาติด้วย โดยเจ้าตัวได้ตัดสินใจ เลือกเป็นนักเรียนเตรียมทหารในส่วนของกองทัพบก และได้เข้ารายงานตัวตามระบบ ณ โรงเรียนนาย ร้อยพระจุลจอมเกล้าเรียบร้อยแล้ว

@@@……กองทัพบกขอช่ืนชมในความรู้ ความสามารถ ของ นาย ธนากร ทั้งด้านวิชาการและความขยันหมั่นเพียรในการฝึกฝน และเตรียมตนเอง เพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบคัดเลือก จนประสบผลสําเร็จ และจากประ วัติครอบครัว พบว่ามีพื้นฐานครอบครัวที่อบอุ่น บิดามารดาอบรมเลี้ยงดูปลูกฝังให้เป็นคนดี ส่วนเจ้าตัวมีความมุ่งมั่นต้ังใจจะเป็นทหาร  ซึ่งเกิดจากแรงบันดาลใจ ที่ผ่านประสบการณ์ด้านการทหารมาเมื่อปี 2553 ที่เกิดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณเขาพระวิหาร ซึ่งตนเองและครอบครัวต้องออกนอกพื้นที่ชายแดนจ.ศรีสะเกษ ชั่วคราวตามแผนอพยพประชาชน ได้มีโอกาสเห็นการนํากําลังทหาร เข้าดูแลพื้นที่ชายแดน เพื่อปกป้องประเทศดูแลประชาชน จึง  เกิดความประทับใจ และตั้งใจว่าจะหน้าท่ีดูแลชาติบ้านเมืองด้วยการเป็นทหาร

@@@……พล.ร.ต.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) เปิดเผยว่า ศรชล.และ กองทัพเรือสหรัฐอเมริกาได้จัดให้มีการฝึกผสม SEA – CAT (South East Asia Cooperation in Anti Terrorism at Sea) ในพื้นที่จังหวีดภูเก็ต โดยมีลักษณะการฝึกเป็นการฝึกค้นหาสกัดกั้น และฝึกตรวจค้นเรือต้องสงสัยที่แสดงการขัดขืน (Non – Compliant Board ing) การฝึกอบรมการตรวจค้นเรือต้องสงสัย และการ สังเกตการณ์บนเรือ /อากาศยาน ของกองทัพเรือสหรัฐฯ 

@@@……การฝึกผสม SEACAT เป็นการฝึกผสมทางเรือในลักษณะพหุภาคี ระหว่าง กองทัพเรือในภูมิ ภาคอาเซียน และ กองทัพเรือสหรัฐฯ มีวัตถุประสงค์การฝึกฯ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในการรักษาความมั่นคงทางทะเล มุ่งเน้น การป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดในทะเล ภายใต้ขอบเขตของกฎหมายระหว่างประเทศ และกฎหมายภายในของแต่ละประเทศ  ซึ่งทางกองทัพเรือสหรัฐฯ ได้ทำการฝึกผสม SEACAT ร่วมกับกองทัพเรือไทย มาตั้งแต่ปี 2544 โดยปีนี้เป็นครั้งแรกที่ กองทัพเรือสหรัฐได้ทำการฝึกร่วมกับ ศรชล.ในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามัน ซึ่งทาง ศรชล.ได้มอบหมายให้ พลเรือโทเชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3/ ผอ.ศรชล.ภาค 3 เป็นผู้จัดการฝึกการฝึกผสม SEACAT 2021 โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 – 20 ส.ค.2564 

@@@……พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ร่วมกับนาวาเอก นายแพทย์ พิสิทธิ์  เจริญ​ยิ่ง รองเลขาธิการ​สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เดินทางไปตรวจความพร้อมสำหรับสนับสนุนก๊าซออกซิเจนให้แก่ หน่วยงาน องค์กรต่าง ๆ ณ แผนกผลิตก๊าซ กองซ่อมบริภัณฑ์ กรมช่างอากาศ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ของศูนย์การทหารอากาศโยธิน ถนนเดชะตุงคะ แขวงสีกันเขตดอนเมือง กรุงเทพฯ ตามโครงการ  “ทัพฟ้าต่อลมหายใจ ต้านภัยโควิด-19” ซึ่งกองทัพอากาศร่วมกับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติจัดทำขึ้น เพื่อสนับสนุนออกซิเจนสำหรับการรับ-ส่งผู้ป่วยจากบ้านไปยังส่งโรงพยาบาล หรือโรงพยาบาลสนาม รวมทั้งการส่งผู้ติดเชื้อกลับไปพักรักษาตัวที่ภูมิ ลำเนาเดิม สำหรับหน่วยงาน องค์กร ที่จะขอรับการสนับสนุนออกซิเจน ต้องติดต่อขอรับบริการล่วงหน้า 1 วัน ได้ที่ เฟซบุ๊ก AIR FOR THAI และ เฟซบุ๊ก สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เพื่ออำนวยความสะดวกและให้เกิดประสิทธิภาพในการสนับสนุนออกซิเจน โดยกำหนดเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค.2564 เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จะบรรเทาลง

@@@……ทหารช่วยเหลือประชาชน…..พ.อ.ยุธิส พันธ์ทวี ผบ.หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 35 (นพค.) จัดกำลังพล ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย นพค.35 จำนวน 10  นาย พร้อมยานพาหนะ เข้ามอบน้ำดื่มสะอาดและช่วยเหลือประชาชน โดยการขนย้ายสิ่งของ จากผลกระทบฝนตกหนัก เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 11 ส.ค.64 ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมอาคารและบ้านเรือน ได้รับความเสียหายจำนวน 50 หลังคาเรือน  ทำให้ประชาชนในพื้นที่ไม่สามารถใช้ยานพาหนะในการสัญจรได้ ณ บ.สันเกล็ดทอง ม.7 ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย

 ………………………

 คอลัมน์ “Military Key”

โดย “รหัสมอร์ส”