“มงคลกิตติ์” ท้า “บิ๊กตู่” ต่อยคาดเชือก ยึดปท.เป็นเดิมพัน ให้เวลา 10 วันตัดสินใจ ลั่นถ้าไม่รับคำท้า หน้าตัวเมีย ใจปลาซิว
เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 64 ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ให้สัมภาษณ์หลังโพสต์เฟสบุ๊ค ท้าชกมวยคาดเชือกกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯว่า สาเหตุที่ตนต้องทำแบบนี้เนื่องจากการบริหารงานที่ผิดพลาดในเรื่องการแก้ปัญหาโควิด-19 มีนายกฯเหมือนไม่มี การจัดซื้อวัคซีนก็ล้มเหลว ไฟเซอร์ก็มีแต่ไฟเซอร์บริจาค ของจริงที่จะมาก็อีก 3 เดือน คนคงตายมากกว่านี้แน่นอน ตนอยากให้พล.อ.ประยุทธ์ เอาอย่างนายกฯมาเลเซีย ที่ลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ เนื่องจากผู้ติดเชื้อโควิดเกิน 1 ล้านราย แต่ตนยังไม่เห็นความรับผิดชอบทางการเมืองของพล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประยุทธ์ขณะนี้ไม่ได้อยู่เพื่อประชาชน แต่อยู่เพื่อตัวเอง พวกพ้อง และครอบครัว ดังนั้นไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่จะอยู่ในตำแหน่งนายกฯที่ทำให้บ้านเมืองระส่ำระสาย เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า
“ทุกวันนี้ ส.ว. และส.ส. ก็ยังหนุนอยู่ วิธียุติปัญหาด้วยสันติวิธี ผมขอสวมหัวใจของพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนทั้งประเทศ ขอท้าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาต่อยกัน ผมขอใช้มือขวามือเดียว เพราะไม่ต้องการรังแกคนชรา” กล่าวต่อว่า ตนไม่ใช่นักมวย แต่เคยเป็นครูสอนเพาะกายมาก่อน จึงเคลื่อนไหวไม่เร็วมาก แต่ขอหมัดเดียว ถ้าพล.อ.ประยุทธ์แพ้ ต้องสัญญากับประชาชนว่าจะลาออกจากนายกฯทันทีเพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อได้ แต่ถ้าตนแพ้ ก็หมายถึงประชาชนแพ้ ตนจะลาออกจากส.ส.ทันที เช่นกัน ตนให้เวลาอีก 10 วันต่อจากนี้ หากพล.อ.ประยุทธ์ ไม่รับคำท้า ถือว่าหน้าตัวเมีย ใจปลาซิว เสียชื่อกองทัพบกที่เคยเป็นถึงอดีตผู้นำ เป็นนายกฯ ถือว่าใจปลาซิวที่สุด และเรื่องนี้ใครจะไปยื่นสอบจริยธรรมคงไม่ได้ เนื่องจากเป็นกีฬา จัดที่สนามมวย จัดอยู่ในกติกาสากล ไม่ถึงกับชีวิต แต่สามารถรักษาบ้านเมืองไว้ได้ ทำให้สังคมกลับสู่ความสงบสุข ม็อบที่มาล้อมบ้านพล.อ.ประยุทธ์ก็จะไม่มี
“การต่อยครั้งนี้เรียกว่า เทนไฟท์เทน เป็นการต่อยเพื่อบ้านเมือง ต่อยเพื่ออิสรภาพประชาชนที่ปลดแอกจากระบอบประยุทธ์ ปลดแอกจากคสช.เดิมที่ยังเหลืออยู่บ้าง หากพล.อ.ประยุทธ์ไม่กล้า ก็รีบเซ็นใบลาออก เรื่องนี้ไม่ถึงตาย แต่เอาบ้านเมือง และชีวิตประชาลนเป็นตัวตั้ง” นายมงคลกิตติ์ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ออกมาตอบโต้ นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ก็แล้วแต่ ถ้า นายสิระ สามารถยับยั้งผู้ป่วย ผู้เสียชีวิตจากโควิด หรือยังยั้งการบริหารราชการแผ่นดินของพล.อ.ประยุทธ์ได้ ตนจะไม่ว่าเลย ส่วนจะพอเป็นคู่ชกแทนได้หรือไม่นั้น ต้องให้นายสิระ เป็นนายกฯก่อน
