“บ้านหมอดูวัชรพล” ส่องดวงเมืองกับสถานการณ์การเมือง การันตี “ไมมีอะไรน่าเป็นห่วง” รัฐบาลควบคุมได้หมด “แกนนำม็อบ” ทั้งเปิดหน้าและซ่อนเร้นจะถูกกวาดล้างเหมือนฝีแตก หลังก.พ. 64 ประเทศจะกลับมาเดินหน้าอย่างสวยงาม
เมื่อวันที่ 16 ต.ค. เฟซบุ๊กเพจ “บ้านหมอดูวัชรพล” โพสต์ข้อความระบุถึงสถานการณ์การเมืองและดวงเมืองไว้น่าสนใจว่า “ไม่ได้ดูดวงเมืองละเอียดๆ มานานแล้ว นับตั้งแต่ที่เขียนคำพยากรณ์เมื่อเดือนเมษายน ๖๓ เพราะคำพยากรณ์ที่เขียนวันที่ ๑๑ เมษายน ๖๓ ยังไม่สิ้นสุด ลากยาวไปจนถึงเดือนมีนาคม ๖๔ และตลอดเวลาที่ยังอยู่ในช่วงของคำพยากรณ์ ก็ยังแม่นยำอยู่ จนกระทั่งมีคนมาถามว่า ไม่พยากรณ์เรื่องน้ำท่วมใหญ่หรอกหรือ เขาพยากรณ์กันว่า จะเกิดน้ำท่วมใหญ่กว่าปี ๕๔ ด้วยซ้ำ ผมก็ตอบว่า “ไม่มีน้ำท่วมอย่างนั้น ถ้าคำพยากรณ์ที่เขียนไป ไม่มี ก็คือ ไม่มี” มีแต่การท่วมเป็นจุดๆ ตามที่เคยเกิดขึ้นตามปกติ เนื่องจากน้ำหลาก เท่านั้น (ก็ยังมีคนมาท้าทายในคอมเมนต์ บอกว่า “แล้วเรามาดูกัน” ผมก็ไม่ได้สนใจต่อปากต่อคำต่อ)
.
มีคนมาถามอีกว่า แล้วไม่มีปัญหาเรื่องการประท้วงจนเกิดการล้มตาย หรือเกิดการล้มล้างสถาบันได้ หรอกหรือ? เขากำลังจะล้มเจ้ากันแล้ว ผมก็ถามเขาว่า มีในคำพยากรณ์หรือเปล่าล่ะ ไม่มี ก็คือ ไม่มี เหมือนกับคำพยากรณ์เรื่องน้ำท่วมนั่นแหละ
.
ด้วยคำถาม ผมจึงต้องเอารูปดวงเมือง (Origin) ทั้งที่วางดวงเมืองในสมัยรัชกาลที่ ๑ และ ๔ ที่ประกอบด้วยดาวจร (Transit) ในวันนี้ ชี้ให้ดู ไม่มีเหตุอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น
.
บางท่านบอกว่า ดาวมฤตยู ไง มีฤทธิ์ร้ายแรง จะทำให้เกิดการปฏิวัติล้มล้าง ผมบอกได้เลยว่า ดวงเมืองประเทศ ดาวมฤตยูเป็นคุณ (ทั้งดวงเมืองรัชกาลที่ ๑ และ ๔) เพราะถูกวางไว้ใน “จุดโชค” ซึ่งหมายถึงจุดที่ บุญกุศล คุ้มครอง หรือแปลงให้เป็นคุณ
.
บทพิสูจน์ว่า ดาวมฤตยูในดวงเมืองเป็นคุณ ก็ต้องไปดูเหตุการณ์ในรัชกาลที่ ๑ และ ๔ (และหลังจากนั้น) เรามีภัยจากศัตรู ทั้งสงคราม ๙ ทัพ และ ลัทธิล่าอาณานิคม แต่เราผ่านสถานการณ์เหล่านั้นมาได้โดยมิได้เสียเอกราช ไม่ได้เป็นทวิราช สถาบันพระมหากษัตริย์ก็ยังเข้มแข็งมั่นคงดุจดังเดิม
.
ส่วนกรณี คณะราษฎร์ยึดอำนาจ ที่ทำการสำเร็จเพราะรัชกาลที่ ๗ ท่านมีพระราชประสงค์ที่จะพระราชทานรัฐธรรมนูญให้อยู่แล้ว หากว่าท่านไม่มีพระราชประสงค์อยู่ก่อน และห้ามมิให้มีการต่อต้านจากทหารฝ่ายที่จงรักภักดี (ซึ่งมีกำลังมากกว่า) คณะราษฎร์ก็ทำการไม่สำเร็จหรอกครับ เพราะในขณะที่เกิดการปฏิวัติยึดพระราชอำนาจ พระองค์มิได้ถูกจับกุมตัวแต่อย่างใด
.
ถ้าเราจำได้ กรณีหนึ่งที่เกิดการยึดอำนาจในสมัยที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ท่านปัดปืนที่จ่ออยู่ แล้วเดินออกมา แล้วกราบบังคมทูลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบรมราชินีนาถ แปรพระราชฐานไปอยู่ที่นครราชสีมา จากนั้นจึงปฏิบัติการยึดอำนาจกลับได้ ครั้งนั้นปฏิวัติไม่สำเร็จ กลายเป็นกบฎ และมีผู้ต้องโทษประหารชีวิตด้วย
.
กับสถานการณ์ปัจจุบัน ยืนยันได้ว่า ดวงเมืองไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง สุดท้ายรัฐบาลก็จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ในขณะที่แกนนำ ทั้งที่เปิดเผย และซ่อนเร้น จะถูกกวาดล้าง ไม่ว่าจะมีตำแหน่งแห่งหนในการเมืองหรือไม่ก็ตาม เพราะดวงเมืองยังแข็งแกร่ง มีการกระทำกันอย่างนี้ ก็เหมือนกับฝีแตก ทำให้ถึงเวลากวาดล้างเสี้ยนหนามของแผ่นดินกันแล้ว
.
และหลังจากนี้ ตั้งแต่กลางกุมภาพันธ์ ๖๔ ประเทศไทยจะกลับมาเดินหน้าได้อย่างสวยงามอีกครั้ง“