“ส.ว.-ก้าวไกล” รุมไล่บี้ถอนร่างแก้รธน. ชี้ขัดข้อบังคับแก้ไขเองไม่ผ่านรัฐสภา เชื่อมีคนยื่นศาลแน่ สุดท้ายลงมติเดินหน้าต่อ
เมื่อวันที่ 25 ส.ค.64 ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานในการประชุม ซึ่งได้เข้าสู่การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ (ฉบับที่…) พ.ศ.. ( แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และมาตรา 91 ว่าด้วยระบบเลือกตั้ง) ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ที่มี นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานกมธ. พิจารณาแล้วเสร็จ ต่อจากวันที่ 24 ส.ค. ที่จะต้องลงมติอนุญาตการแก้ไขเพิ่มเติมของกมธ. ซึ่งมีการทบทวนเนื้อหาที่ต่างจากการยื่นร่างแก้ไข และรายงาน เมื่อวันที่ 19 ส.ค. จากที่เสนอ 9 มาตราปรับแก้ไขเหลือเพียง 4 มาตรา
ทั้งนี้ก่อนการลงมติของรัฐสภา นายไพบูลย์ ชี้แจงว่า กมธ. ได้ปรับแก้ไขรายงานโดยได้ตัดออกหลายมาตรา เพราะเห็นว่าไม่มีความจำเป็น อาทิ มาตรา 85 ว่าด้วยการกำหนดให้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศผลเลือกตั้งภายใน 30 วัน , บทเฉพาะกาล ว่าด้วย กำหนดให้ออกพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญภายใน 120 วัน หากทำไม่แล้วเสร็จ ให้ กกต. ออกประกาศเพื่อใช้ในการเลือกตั้ง ทั้งนี้กมธ. ได้คงมาตราที่เพิ่มเติม คือ มาตรา 86 เพื่อปรับตัวเลข ส.ส.ให้สอดคล้องกับหลักการ ที่ให้มีส.ส.เขต 400 คน และบัญชีรายชื่อ 100 คน และ คงบทเฉพาะกาล ในบทว่าด้วยกรณีที่มีการเลือกตั้งซ่อมจะไม่นำรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมมาใช้บังคับ ยกเว้นมีการเลือกตั้งทั่วไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิกได้ท้วงติง และตั้งข้อสังเกตว่าการแก้ไขดังกล่าว อาจผิดข้อบังคับ และขอให้ถอนญัตติดังกล่าวออกจากระเบียบวาระ อาทิ พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว. ฐานะผู้เสนอคำแปรญัตติอภิปรายว่า การแก้ไขของกมธ.แก้รัฐธรรมนูญแบบฉุกละหุก เมื่อวานนี้ ( 24 ส.ค.) ยังไม่เห็นเนื้อหาว่าแก้อย่างไร และไม่แน่ใจว่ากระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าจะมีผู้ที่ส่งศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงที่มาของ ส.ส. ดังนั้นการแก้ไขของกมธ.ฯ ควรพิจารณาในที่ประชุม ไม่ใช่ใช้มติกมธ. แก้ไขเปลี่ยนแปลง แล้วให้ที่ประชุมรัฐสภาอนุญาต ตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา
ขณะที่นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ตนฐานะผู้แปรญัตติพบว่า มีการแก้ไขคำแปรญัตติที่ไม่ตรงกับคำขอที่เสนอต่อที่ประชุม ดังนั้นหากการประชุมกมธ.ฯเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดระบุว่าทำได้แล้ว แต่สิ่งที่ควรทำ คือ การถอนญัตติเพื่อกลับไปแก้ไขให้สมบูรณ์ ให้เนื้อหาตรงกัน เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีบทบัญญัติเป็นการเฉพาะ ตนไม่ต้องการให้มีปัญหากระทบต่อสมาชิกรัฐสภาระยะยาว
อย่างไรก็ดีนายชวน ยืนยัน ว่า เมื่อกมธ. แก้ไขเปลี่ยนแปลง ต้องขออนุญาตการแก้ไขจากที่ประชุมรัฐสภา ข้อ37 จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติ ผลปรากฎว่า เห็นด้วยกับกมธ.ด้วยคะแนน 357 ต่อ 42 เสียง งดออกเสียง 86 เสียง
จากนั้นได้เข้าสู่การพิจารณา ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ (ฉบับที่..) พ.ศ…. ในวาระสอง เมื่อ 10.20 น.
