“ศิริกัญญา”โชว์ภาพผู้นำต่างชาติลาออกแสดงรับผิดชอบแก้โควิดพลาด สกิด”บิ๊กตู่”

“‘ก้าวไกล” ชักแม่น้ำทั้ง 5 ซัด “บิ๊กตู่” คลั่งอำนาจจนพาเศรษฐกิจชาติดิ่งเหว เย้ยไทยแก้โควิดฟิ้นตัวช้าสุดในโลก ตอกย้ำใช้เงินกู้สะเปะสะปะ ไร้ทิศทาง โชว์ภาพผูนำลาออกต่าฝงชาติลาออกเหตุแก้โควิดพลาดสไลด์

วันที่ 31 ส.ค. 64 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาฯเพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจทั่วไปรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ต่อมา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้ที่คลั่งอำนาจจนพาเศรษฐกิจชาติลงเหว ขอแสดงความยินดีที่ท่านทำให้ประเทศติดอันดับโลกประเทศที่ฟื้นตัวจากโควิดช้าที่สุดในโลก ด้วยดัชนี Nikkei asai ที่ให้ประเทศอยู่อันดับที่ 120 คืออันดับสุดท้าย โควิดอยู่กับเรามาเกิน 18 เดือน มีคนตกงานตั้งแต่รอบแรกจนถึงขณะนี้ 3.4 ล้านคนเพิ่มรวมถึงเด็กจบใหม่ที่ยังหางานทำไม่ได้มีตัวเลขอยู่ที่ 290,000คน เพิ่มขึ้นจะช่วงก่อนโควิด 85,000 คน ซึ่งแสดงถึงปัญหาสถานการณ์รายได้ของประชาชนที่ลดลงทุกวันด้วยเศรษฐกิจแบบนี้ รวมตั้งแต่ปี 2563-2565 รายได้ประชาชนหายไปเกือบ 3 ล้านล้านบาท จากตัวเลขของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยเรียกว่าหลุมรายได้ แต่ตนขอเรียกว่า เหวรายได้มากกว่า เพราะทั้งกว้างและลึกยากที่จะกระเสือกกระสนขึ้นมาได้ ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการบริหารงานที่ผิดพลาดของรัฐบาลถ้าจะทำให้เหวตื้นขึ้นมาได้ก็ต้องอาศัยมาตรการช่วยเหลือต่างๆที่จะเข้าเยียวยาให้ดีขึ้น ที่ผ่านมาที่กู้ไปแล้ว1.5 ล้านล้านบาท จนถึงวันนี้คงไม่พอที่จะทำให้เหวตื้นขึ้นมาได้เพราะใช้เงินไปอย่างสะเปะสะปะ ไร้ทิศทางเหลือเกิน

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ที่เราต้องออกมาเรียกร้องเพราะที่ผ่านมาเราไม่ได้เป็นคนขี้เกียจ ไม่ได้อยากทำงานน้อยลง แต่สิ่งที่รัฐบาลหยิบยื่นให้วันนี้อย่างเดียวก็คือหนี้ แน่นอนว่ายังมีคนที่มีรายได้เพิ่ม ครึ่งปีแรกกำไรของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 14% จากปี62 หลายภาคธุรกิจเริ่มฟื้นตัวในขณะที่บริษัทเหล่านี้แทบไม่ได้จ้างงานเพิ่มขึ้น และลงทุนลดลง 50% จากก่อนช่วงโควิด สรุปวิกฤตครั้งนี้คือวิกฤตของคนจนชัดๆ เพราะแบบนี้ใช่หรือไม่ ที่ยังมีคนได้ประโยชน์อยู่ นายกฯจึงเพิกเฉยต่อปัญหารายได้ของประชาชนรากหญ้า เป็นที่แน่นอนว่าเศรษฐกิจปีนี้คงไม่แตกต่างจากปีที่แล้ว แม้แต่สภาพัฒน์เคยคำนวนไว้ ว่าจีดีพีน่าจะสูงถึง 3% แต่วันนี้คาดว่าน่าจะติดลบแล้ว ส่วนการส่งออกครึ่งปีแรกโต 15% แต่ก็ยังฟื้นตัวล่าหลังกว่าประเทศอื่นๆทั่วโลก เช่น จีน, อินโดนิเซีย,เวียดนาม,สิงคโปร์ เป็นต้น

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า การคลังเรากำลังจะเจอปัญหาเรื่องสภาพคล่องเรื่องการจัดการรายได้และการจัดเก็บรายได้ที่ลดลงปีละ 3-4 แสนล้านบาททุกปี และกู้จนเต็มเพดานก็ยังไม่พอจ่ายเป็นงบประมาณประจำปี สุดท้ายต้องควักเงินคลังควักไปเรื่อยๆเงินก็จะหมด ตนอยากแสดงให้ดูรายงานความเสี่ยงทางการคลังที่จะออกมาทุกปีในเดือนมี.ค.แต่ปีนี้ไม่ออก ค้นหาในมติคณะรัฐมนตรีก็ไม่เจอ จึงสืบทราบว่ากลายเป็นเอกสารลับ ลับเพราะอะไร หรือเพราะมีการรายงานว่าจากภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญประกอบกับการดึงตัวของสภาพคล่องในอนาคตในระยะสั้นรัฐบาลอาจพิจารณา ชะลอการเบิกจ่ายงบประมาณต่างๆพิจารณาอนุมัติงบฯกลาง รายการสำรองจ่ายบรรเทาสถานการณ์โควิดเท่าที่จำเป็น เพราะแบบนี้หรือไม่ถึงกลายเป็นเอกสารลับ

“ ตามปกติแล้วการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะไม่มีการเสนอแนะ แต่ดิฉันขอเสนอแนวทางประชาธิปไตยให้พล.อ.ประยุทธ์ ดูจัวอย่างการลาออกของรัฐมนตรีประเทศมองโกเลีย ลาออกเพราะประชาชนประท้วงถึงการแก้โควิด และทางออกสุดท้ายนายกฯประเทศสวีเดนพ้นตำแหน่ง เนื่องจากพ่ายโหวตอภิปรายไม่ไว้างใจ แต่คิดว่าพล.อ.ประยุทธ คงไม่ใช้แนวทางนี้ ”น.ส.ศิริกัญญา อภิปราย