‘’นพ.โอภาส’’เผยเปิดแผนฉีดวัคซีนเดือนต.ค. 24 ล้านโดส รวมบู๊สเตอร์โดส ให้คนฉีดSV 2 เข็มช่วงมี.ค.-พ.ค. ย้ำวัคซีนไม่ใช่เครื่องมือเดียว ยังต้องคงเข้มมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคล
เมื่อวันที่ 11 ก.ย.64 ที่กรมควบคุมโรค นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โรคโควิด -19 ว่า วันนี้ทั่วโลกยังมีรายงานการติดเชื้อขึ้นๆ ลงๆ ภาพรวมยังระบาดรุนแรงแม้ไม่รุนแรงเท่า 3-4 เดือนที่ผ่านมา โดยวันนี้ทั่วโลกติดเชื้อ 5.9 แสนราย ติดดเชื้อมากสุดคือสหรัฐอเมริกา 1.7 แสนรายเสียชีวิต 1.7 พันราย รองลงมาคืออินเดียติดเชื้อ 3.7 หมื่นราย เสียชีวิต ประมาณ 304 ราย และสหราชอาณาจักร ติดเชื้อ 1.7 หมื่นราย เสียชีวิต 147 ราย ส่วนไทยติดเชื้อรายใหม่ 1.4 หมื่นราย เสียชีวิต 253 ราย
นพ.โอภาส กล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา ศบค. เห็นชอบแผนจัดหาและฉีดในเดือน ต.ค. รวม 24 ล้านโดส ซิโนแวค 6 ล้าน แอสตร้าเซนเนก้า 10 ล้านโดส ไฟเซอร์ 8 ล้านโดส รวมของ ซิโนฟาร์ม 6 ล้านโดส ถือว่าค่อนข้างมาก ก็จะเร่งฉีดเป้าหมายคือ 1. ประชาชนทั่วอายุ 18 ปี ขึ้นไป ได้ฉีดเข็ม1 ครอบคลุม 50% ของทุกจังหวัด และทำโควิดฟรี แอร์เรียในจังหวัดที่ฉีดครอบคลุม 80% โดยจะฉีด ตามสูตรการฉีดวัคซีนไขว้ซิโนแวค+แอสตร้าฯ สูตรแอสตร้า+แอสตร้าฯ และสูตรแอสตร้าฯ + ไฟเซอร์ จำนวน 16.8 ล้านโดส
2. เร่งดำเนินการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ให้เด็กอายุ 12-17 ปี เพื่อเตรียมความพร้อมเปิดเรียน ใช้สูตรไฟเซอร์ 2 เข็ม จำนวน 4.8 ล้านโดส แต่จะฉีดใครก่อนนั้นต้องหารือกับกระทรวงศึกษาอีกครั้ง
3. กลุ่มแรงงานในระบบประกันสังคมฉีดสูตร ซิโนแวค + แอสตร้า จำนวน 1.1 ล้านโดส กลุ่มหน่วยงานอื่นๆ เช่น องค์กรภาครัฐ ราชทัณฑ์ เป็นสูตรซิโนแวค+แอสตร้าฯ จำนวน 0.5 ล้านโดส และ 4.สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็มครบตั้งแต่เดือน มี.ค.-พ.ค.64 จากข้อมูลที่มีเราพบว่าเวลาผ่านไปภูมิคุ้มกันจะค่อน ๆ ลดตามเวลา ก็จะเพิ่มโอกาสเสี่ยงติดเชื้อได้ จึงต้องมีการฉีดเข้มกระตุ้น เบื้องต้นจะให้เป็นวัคซีนแอสตร้าฯ 1 เข็ม ซึ่งจะเริ่มในเดือนต.ค. แต่หากมีความพร้อมก็จะเริ่มได้ก่อน
ส่วนวิธีการเรียกประชาชนมาฉีด ก็จะเรียงตามช่วงเวลาที่รับวัคซีนซิโนแวคเข็มที่ 2 ซึ่งจะประกาศในทราบในเวลาต่อไป ที่อาจจะให้ไปรับวัคซีนได้ในหน่วยบริการที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคเข็ม 1 และ 2 เพราะส่วนใหญ่รับที่ รพ. ซึ่งก็มีวัคซีนแอสตร้าฯ อยู่แล้ว เราก็สามารถให้เอามาฉีดเป็นบูสเตอร์ได้ ทั้งนี้จะประกาศให้ทราบล่วงหน้าเพื่อเตรียมตัวอีกครั้ง โดยเฉพาะพื้นที่เศรษฐกิจ ขณะนี้ เริ่มดำเนินการบางส่วน เช่น ภูเก็ตแซนบ็อค และกลุ่มผู้ติดเชื้อแล้ว 1-3 เดือน
“ระยะต่อไปเราจะอยู่กับโควิดค่อนข้างนาน เพราะเชื้อมีการเปลี่ยนแปลงตลอด จึงขอฝากให้คงมาตรการควบคุมป้องกันโรคแบบครอบจักรวาล สถานประกอบการให้ทำบับเบิล แอนด์ ซีลมากขึ้น วัคซีนไม่ใช่เครื่องมือเดียว ฉีดวัคซีนแล้วยังต้องคงเข้มมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคล ต้องสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ”นพ.โอภาส กล่าว.
