ส่องโครงการต้นแบบ มุ่งส่งเสริมให้ประชาชนตรวจรอยโรคก่อนมะเร็งและโรคมะเร็งช่องปากด้วยตนเองตามแนวทาง “ตรวจเร็ว พบไว ส่งต่อได้ รักษาทัน”
“ที่ผ่านมาการตรวจสุขภาพช่องปากมักจะตรวจเพียงแค่ฟันและเหงือก แต่อันที่จริงแล้วยังมีรอยโรคในส่วนของเนื้อเยื่ออ่อนในช่องปาก (Oral Soft Tissue) ซึ่งบางรอยโรคก็จัดอยู่ในกลุ่มรอยโรคก่อนมะเร็งช่องปากบางรอยโรคก็อาจจะเป็นโรคที่เราไม่อยากให้เกิดไปแล้ว นั่นคือ โรคมะเร็งช่องปาก และจากสถิติของสถาบันมะเร็งแห่งชาติพบว่า มะเร็งในช่องปาก เป็นโรคที่พบได้บ่อย 1 ใน 10 อันดับต้นๆ โดยในเพศชายพบได้เป็นอันดับที่ 6 ส่วนในเพศหญิงพบได้เป็นอันดับที่ 10” ทพญ.นิรมล ลีลาอดิศร หัวหน้ากลุ่มงานทันตกรรม โรงพยาบาลร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวถึง ความสำคัญของการตรวจรอยโรคก่อนมะเร็งช่องปากและสถิติของการเกิดโรคมะเร็งช่องปาก
‘’โครงการฯ มุ่งส่งเสริมให้ความรู้ผ่านเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)ให้สามารถตรวจคัดกรองรอยโรคในช่องปากได้ด้วยตนเอง เพื่อนำองค์ความรู้ไปต่อยอด ด้วยการลงพื้นที่เชิงรุกเพื่อแนะนำและเป็นที่ปรึกษาให้ประชาชนในชุมชนสามารถตรวจรอยโรคในช่องปากได้ด้วยตนเอง ซึ่งหากสามารถตรวจพบได้ตั้งแต่ก่อนเป็นมะเร็งช่องปาก แนวทางการรักษาคนไข้บางรายก็สามารถรับการผ่าตัด ไม่ต้องไปรับเคมีบำบัดหรือฉายรังสีรักษา คุณภาพชีวิตของคนไข้ก็จะดีขึ้น โดยทั้งหมดอยู่ภายใต้แนวทางของแผนนั่นคือ “ตรวจเร็ว พบไว ส่งต่อได้ รักษาทัน”
สำหรับแนวทางการคัดกรองนั้น จะเริ่มต้นจากประชาชนเป็นผู้ตรวจช่องปากตนเองก่อน โดยหากพบรอยโรคในช่องปาก ไม่ว่าจะเป็น รอยขาว รอยแดง แผลเรื้อรัง ก้อนบวม สามารถแจ้งไปที่ อสม. และทาง อสม. จะทำหน้าที่ประสานไปยังทันตาภิบาลประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพสต.) โดยทันตาภิบาลจะเป็นผู้ตรวจและยืนยันรอยโรค พร้อมกับคัดแยกรอยโรคก่อนมะเร็งช่องปากและรอยโรคมะเร็งช่องปาก กับรอยโรคอื่นที่ไม่ร้ายแรง และประสานไปยังทันตแพทย์ประจำโรงพยาบาลจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อตรวจและรักษาตามขั้นตอนต่อไป
“รอยโรคต่าง ๆ ที่ตรวจพบในเบื้องต้นนั้น คนไข้อาจจะรู้สึกเจ็บ แสบ ชา หรืออาจจะไม่รู้สึกอะไรเลย หากพบรอยแผลเราต้องตรวจก่อนว่าเป็นแผลที่มาจากปัจจัยระคายเคือง ได้แก่ มีขอบฟันคม มีฟันแตก ใส่ฟันเทียมที่ไม่พอดี หลวมไป คับไป หรือไม่ ซึ่งในเบื้องต้นทันตแพทย์อาจถอนฟัน กรอฟันเพื่อลบคมฟัน หรือให้คนไข้งดใส่ฟันเทียมเพื่อติดตามดูรอยโรค หากภายใน 2 สัปดาห์รอยโรคยังไม่ดีขึ้น ขั้นตอนต่อไปคือการตัดชิ้นเนื้อเพื่อนำไปส่องกล้องตรวจ เพื่อให้ทราบว่าเป็นรอยโรคอะไรและมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งช่องปากหรือไม่ และการรักษารอยโรคก่อนมะเร็งหรือรอยโรคมะเร็งระยะเริ่มต้นที่ยังไม่ได้ลุกลามในผู้ป่วยบางราย สามารถผ่าตัดรอยโรคออกและคนไข้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติและตรวจติดตามอาการทุก 3-6 เดือน” ทพญ.นิรมล ลีลาอดิศร กล่าว
ทั้งนี้ สามารถแบ่งรอยโรคออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.รอยโรคที่ไม่ร้ายแรง รักษาติดตามอาการตามปกติ 2.รอยโรคเสี่ยงมะเร็งช่องปาก รักษาโดยใช้ยา หรือผ่าตัด และมีการติดตามต่อเนื่อง และ 3.รอยโรคมะเร็งช่องปาก ส่งต่อไปรักษามะเร็งตามขั้นตอน และมีการติดตามระหว่างและหลังการรักษา
นับเป็นอีกหนึ่งโครงการฯ ที่ประสบความสำเร็จและเป็นประโยชน์กับประชาชน ภายใต้การทำงานเป็นทีมเวิร์คของทันตแพทย์และทันตาภิบาลผู้ดูแลโครงการ โดยมีอสม. และประชาชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทำให้โครงการนี้ได้รับรางวัลไลอ้อนเพื่อสุขภาพช่องปากประจำปี 2564 (Lion Oral Health Award 2021)
ซึ่งจัดโดยชมรมทันตสาธารณสุขแห่งประเทศไทย และ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ในงานประชุมวิชาการสำนักทันตสาธารณสุจ กรมอนามัย ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับบุคลากรที่มีผลงานสนับสนุนและส่งเสริมงานทันต กรรมป้องกันมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้เป้าหมายเดียวกัน นั่นคือ การสร้างสุขภาพช่องปากที่ดีให้กับประชาชน เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี