“คุณหญิงสุดารัตน์” ยกโมเดลสหรัฐฯ “ฉีดวัคซีน-ตรวจโควิด” ช่วยเศรษฐกิจฟื้นตัวเร็ว จี้รัฐบาลเร่งจัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพมาฉีดให้คนไทยโดยด่วน
เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 64 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย เปิดเผยว่า ตนขอย้ำอีกครั้งว่า หลังจากที่ตนเคยแสดงความคิดเห็นเมื่อ 2 เดือนที่แล้วว่า สิ่งที่ไทยต้องรีบทำในขณะนี้คือ การทำให้คนไทยใช้ชีวิตอยู่กับโควิด-19 ได้อย่างปกติและปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งหัวใจสำคัญอยู่ที่การเร่งฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิผลต่อให้ประชาชนอย่างทั่วถึง และการให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจเชื้อฟรีได้สะดวก เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุขแบบ New Normal คนไทยสามารถกลับมาทำมาหากิน เปิดเมืองเปิดประเทศ ฟื้นฟูเศรษฐกิจได้เร็วที่สุด
โดยเฉพาะในขณะนี้ใกล้ถึงฤดูกาลท่องเที่ยว ซึ่งเป็นช่วงทำรายได้ให้กับคนไทย สิ่งที่ตนเห็นในการมาสหรัฐอเมริกาครั้งนี้คือ ทุกธุรกิจเปิดทำการอย่างปกติ ทั้งร้านอาหาร ผับบาร์ ยิม นวดสปา สนามกีฬา และโรงหนัง ซึ่งชาวอเมริกันกลับมาใช้ชีวิตปกติทำให้เศรษฐกิจของอเมริกาฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เพราะรัฐบาลสหรัฐฯ เร่งฉีดวัคซีนฟรีให้กับประชาชนทุกคน
รวมทั้งนักท่องเที่ยว ฉีดได้ทุกร้านขายยาทั้ง CVS และ Walgreens ทั่วประเทศ อย่างสะดวกมาก ทุกคนสามารถ Walk in หรือจองล่วงก็หน้าได้ โดยใช้เวลาลงทะเบียนจนถึงฉีดเสร็จใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที รวมทั้งทุกสนามบินจะมีจุดให้ฉีดวัคซีนฟรี นอกจากนั้น การตรวจโควิดก็สะดวกสบาย มีบริการตรวจ PCR ฟรีทุกร้านขายยา และมีรถเคลื่อนที่จอดทุกมุมถนนใหญ่ หลังตรวจ 4 ชั่วโมงก็ส่งผลเข้าโทรศัพท์เลย
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต่อว่า การจัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิผลฉีดให้ประชาชนอย่างทั่วถึง ไม่เพียงแต่ทำให้ประชาชนปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยตรง ตามข้อมูลของสหพันธ์ธุรกิจค้าปลีกแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (National Retail Federation) กล่าวว่า การฉีดวัคซีน เป็นตัวแปรที่สำคัญในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ การเปิดเมือง และการบูรณะประเทศ
โดยคาดการณ์ว่าในไตรมาสที่ 2 นี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของสหรัฐอเมริกา จะฟื้นตัวกลับมาจุดสูงสุดก่อนวิกฤตโควิดอีกครั้ง ในทางกลับกันประเทศไทย มีการฟื้นตัวจากวิกฤตอยู่ในอันดับท้ายๆ ของโลก โดยอยู่อันดับที่ 118 จากการสำรวจทั้งหมด 121 ประเทศทั่วโลก ตามข้อมูลของ Nikkei COVID-19 Recovery Index อีกทั้งการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้ ก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยศูนย์วิจัยกสิกรได้ปรับประมาณการทางเศรษฐกิจไทยลงในปีนี้ว่าจะติดลบ ร้อยละ 0.5 แทนที่ปีนี้จะเป็นปีแห่งการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เป็นปีที่คนไทยจะได้ต่อลมหายใจทางเศรษฐกิจได้อีกเฮือก ทั้งหมดนี้เกิดจากความไม่มีประสิทธิภาพ และความล่าช้าในการจัดหาวัคซีนของรัฐบาล รวมไปถึงการไม่วางแผนให้คนไทยใช้ชีวิตอยู่รวมกับโรคโควิดได้อย่างปลอดภัย
“สิ่งที่รัฐบาลไทยต้องเร่งทำคือการจัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิผลมาให้คนไทยอย่างเพียงพอ และรวดเร็ดเพื่อเร่งเปิดเมือง เปิดประเทศฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ทันกับประเทศอื่นทั่วโลก ไม่ใช่ขยายพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่ศบค.เพิ่งมีมติออกมา เพราะนอกจากจะไม่สามารถควบคุมโรคได้จริงแล้ว ยังเป็นอุปสรรคขัดขวางกั้นการทำมาหากินของประชาชน และทำให้นักท่องเที่ยวขาดความเชื่อมั่นในการเข้ามาเที่ยวในประเทศ” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว.