“กรุงไทย” พลิกโฉมการลงทุนทองคำ เปิดซื้อขายทองคำออนไลน์แบบครบวงจร “ครั้งแรก” ในประเทศไทย ผ่าน “Krungthai Gold Wallet” บนแอปฯเป๋าตัง ตอกย้ำการเป็น Thailand Open Digital Platform ให้นักลงทุนซื้อ-ขายทองคำได้สะดวกและปลอดภัย “ไม่มี” ค่าธรรมเนียม
นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมสินทรัพย์ที่ตอบโจทย์ผู้ลงทุนทุกกลุ่ม บนช่องทางที่เข้าถึงได้ง่าย ตอบโจทย์การลงทุนยุคใหม่ โดยเฉพาะบนแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งเป็น Thailand Open Digital Platform ได้รับการพัฒนาโดย อินฟินิธัส บาย กรุงไทย (Infinitas by Krungthai) เปิดกว้างสำหรับผู้ใช้งาน และพันธมิตรทุกกลุ่มเข้ามาร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด
ล่าสุดธนาคารได้พัฒนา “Krungthai Gold Wallet” บนแอปฯเป๋าตัง เปิดโอกาสนักลงทุนทั่วไปเข้าถึงการลงทุนทองคำบริสุทธิ์ 99.99% จากร้านทองชั้นนำได้แบบเรียลไทม์ ผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่เปิดบัญชี เติมและแลกเงิน ซื้อและขายทองคำ โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปร้านทองหรือธนาคาร ตอบโจทย์การลงทุนยุคใหม่ และลดภาระการเก็บรักษาทองคำของผู้ลงทุน “Krungthai Gold Wallet เป็นการพลิกโฉมการลงทุนทองคำในประเทศไทยอย่างแท้จริง
ทำให้ลูกค้าสามารถลงทุนซื้อ-ขายทองคำได้ทุกที่ สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ลงทุนขั้นต่ำเพียง 0.1 ออนซ์ หรือประมาณ 6,000 บาท (อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนและราคาทองคำ ณ วันที่ 7 ต.ค. 64) เปิดให้ลงทุนในช่วงวันทำการจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 7.00 น. ถึง 02.00 น. เพื่อให้นักลงทุนซื้อ-ขายได้อย่างต่อเนื่อง ในเวลาที่ตลาดต่างประเทศเปิดทำการ ทำให้นักลงทุนไม่พลาดโอกาสจากการปรับตัวขึ้นลงของราคาทองคำในตลาดโลก โดยราคาซื้อขายอ้างอิงตามราคาตลาดโลก บนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ลดแรงกดดันจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน”
ทั้งนี้ บริการซื้อขายทองคำผ่าน Krungthai Gold Wallet นำร่องให้บริการ วันที่ 25 ตุลาคม 2564 ร่วมกับ MTS GOLD แม่ทองสุก ซึ่งเป็นผู้ให้บริการค้าทองคำอันดับต้นๆของประเทศ เมื่อมีการซื้อทองคำ ทองคำจะถูกเพิ่มเข้าในวอลเล็ตทองคำที่เปิดกับร้านทองทันที และเมื่อกดขายทองจะได้รับเงินเข้าบัญชีทันทีเช่นกัน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมใดๆ ทั้งสิ้น
นักลงทุนสามารถซื้อขายทำกำไรจากราคาทองโลก โดยตัดหรือรับเงินในบัญชีดอลลาร์สหรัฐได้โดยตรง ซึ่งสามารถเปิดบัญชีสกุลเงินดอลลาร์เพื่อซื้อขายเงินดอลลาร์แบบออนไลน์ครบวงจร (eFCD) ได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง ถือเป็นการให้บริการ eFCD ครั้งแรกของประเทศ โดยไม่มีค่าธรรมเนียม ไม่กำหนดวงเงินขั้นต่ำ ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนพิเศษที่ดีกว่าการแลกผ่านเคาท์เตอร์ธนาคาร ซึ่งต่อยอดมาจากความสำเร็จของ Krungthai Travel Card ที่ธนาคารได้ริเริ่มให้บริการเป็นรายแรก
นายณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประธานฝ่ายบริหารกลุ่มบริษัท MTS Gold กล่าวว่า ทองคำเป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจและยังคงได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงมาโดยตลอดทุกยุคทุกสมัย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดย MTS Gold แม่ทองสุก มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกับธนาคารกรุงไทย พัฒนาช่องทางการลงทุนที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ให้กับนักลงทุน จากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของ MTS Gold ที่มีมาตั้งแต่บริการซื้อขายทองคำผ่านตู้แดง และผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุน ทั้งใน Gold Online, Gold Futures และทองคำในตลาด COMEX ที่ทำให้เราได้รับการยอมรับทั้งในประเทศและตลาดโลก รวมไปถึงการได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย ในการให้บริการซื้อขายทองคำในรูปแบบดอลลาร์สหรัฐ
ดังนั้น การเชื่อมต่อการซื้อขายทองคำผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ก็เชื่อว่าจะเป็นการนำร่องความก้าวหน้าและความสำเร็จของอุตสาหกรรมทองคำไทย เพื่อให้เกิดความหลากหลายและความสะดวกในทุกช่องทางการลงทุน รองรับการเข้าถึงทองคำในทุกการใช้งานให้แก่ผู้ใช้บริการทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น
นางอลิศรา มหาสันทนะ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบัน ธปท.อยู่ระหว่างการผลักดันให้เกิดระบบนิเวศใหม่ของตลาดอัตราแลกเปลี่ยนไทย (FX Ecosystem) โดยหนึ่งในเป้าหมายหลักคือ ให้คนไทยลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศได้สะดวกขึ้น โดยที่ผ่านมา ธปท. ได้ผ่อนคลายหลักเกณฑ์ให้สามารถซื้อขายสินทรัพย์ต่างประเทศและทองคำเป็นสกุลดอลลาร์ ได้ภายในประเทศ รวมไปถึงยังได้ผ่อนคลายเกณฑ์เกี่ยวกับบัญชี FCD ให้คนไทยเปิดบัญชี ซื้อฝาก ถอนขายรับเงินบาท และโอนเงินตราต่างประเทศระหว่างกันผ่านบัญชี FCD ได้เสรี
ดังนั้นการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อซื้อขายทองคำสกุลดอลลาร์ ควบคู่กับการเปิดให้บริการ eFCD ครั้งแรกในประเทศไทย ถือเป็นบริการด้านการลงทุนแบบออนไลน์อย่างครบวงจร ที่จะช่วยสนับสนุนให้คนไทยสามารถทำการลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศ รวมทั้งบริหารจัดการเงินตราต่างประเทศได้คล่องตัว ช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงิน และมีทางเลือกในการลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศที่หลากหลายขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการผลักดันให้เกิดระบบนิเวศใหม่ของตลาดอัตราแลกเปลี่ยนไทย (FX Ecosystem) ในระยะยาว