AOT เร่งเพิ่มฟังก์ชั้น “SAWASDEE by AOT” รองรับเปิดน่านฟ้า 1 พ.ย.นี้ พร้อมดีล 15 สนามบิน เชื่อมโยงแอปพิเคชั่น แชร์รายได้จากการขายสินค้า มุ่งเพิ่มสัดส่วนรายได้ธุรกิจดิจิตอลแพลตฟอร์ม เบื้องต้นคุยกับ ททท. เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว ร้านอาหาร ในประเทศ
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในขณะนี้ AOT อยู่ระหว่างการพัฒนาแอปพลิเคชัน “SAWASDEE by AOT” ให้มีระบบการทำงานที่หลากหลาย (ฟังก์ชั้น) ตรงกับความต้องการของผู้โดยสาร เพื่อให้เป็นมิติใหม่ของการให้บริการ และพร้อมจะเชื่อมโยงสารสนเทศด้านคมนาคมและการท่องเที่ยวตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม เพื่อรองรับการเปิดประเทศวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564
ทั้งนี้ แอปพลิเคชัน “SAWASDEE by AOT” นั้นจะเป็นการอำนวยความสะดวก สบายในการใช้บริการทั้ง 6 ท่าอากาศยานของ AOT ประกอบด้วย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ และยังเป็นช่องหนึ่งในการเพิ่มรายได้ธุรกิจดิจิตอลแพลตฟอร์ม ของ AOT ในอนาคต และมุ่งสู่การเป็น “Digital Airports
แอปพลิเคชัน “SAWASDEE by AOT” จะสามารถเช็กเที่ยวบินในแต่ละวัน เช็กอินผ่านระบบแอปพลิเคชัน มีระบบติดตามกระเป๋าแบบเรียลไทม์ บอกที่ตั้งร้านอาหาร ร้านค้าภายในท่าอากาศยาน ตรวจสอบที่จอดรถ จองรถแท็กซี่ พร้อมกับมีบริการเกมสะสมคะแนนที่สามารถนำไปเป็นส่วนลดแลกซื้อสิ้นค้า หรืออาหารที่ร่วมกับ แอปพลิเคชัน “SAWASDEE by AOT”
นอกจากนี้ AOT ก็อยู่ระหว่างเจรจากับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อร่วมมือด้านการท่องเที่ยว โดย “SAWASDEE by AOT” จะเป็นศูนย์ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร และโรงแรม รีสอร์ทในประเทศไทย ขณะเดียวกันก็อยู่ระหว่างเจรจากับธนาคารกรุงไทย เพื่อให้สามารถทำธุรกรรมด้านการเงินผ่าน “SAWASDEE by AOT” ได้
ขณะเดียวกันปัจจุบัน AOT ก็อยู่ระหว่างเจรจากับตัวแทน 15 ท่าอากาศยาน จาก 8 ประเทศใน 4 ภูมิภาคที่อยู่ภายใต้ข้อตกลง Sister Airport อาทิเช่น ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ ท่าอากาศยานมิวนิก ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงปักกิ่ง ท่าอากาศยานนานาชาติเซี่ยงไฮ้ผู่ตง ท่าอากาศยานนานาชาติอินช็อน เป็นต้น เพื่อร่วมมือเชื่อมโยงแอปพลิเคชั่นระหว่างกัน
โดยการเชื่อมโยงแอปพลิเคชัน กับท่าอากาศยานต่างประเทศนั้นจะสามารถจำหน่ายสินค้าของแต่ละประเทศผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน “SAWASDEE by AOT” ได้ ซึ่งภายหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย AOT ก็มีแผนที่จะไปเจรจาในรายละเอียดเรื่องการ Revenue Sharing หรือการแบ่งรายได้
อย่างไรก็ตามแอปพลิเคชัน “SAWASDEE by AOT” นั้นคาดว่าในปี 2565 จะเริ่มเชื่อมโยงแอปพิเคชั่นของท่าอากาศยานของต่างประเทศได้ ซึ่งในปี 2565 ก็จะเริ่มเห็นมีรายได้จากการเปิดให้บริการ “SAWASDEE by AOT” และในปี 2566 คาดว่ารายได้จะเติบโตขึ้นอย่างชัดเจน และไปช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้ของธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการบิน หรือ นอนแอโรว์ (Non–Aero) ซึ่งคาดว่าในปี 2566 จะมีสัดส่วนรายได้จาก Non–Aero มากกว่า 50% จากปัจจุบันสัดส่วนรายได้ Non–Aero อยู่ที่ 43% สัดส่วนรายได้จากธุรกิจ Aero อยู่ที่ 47%