“ฝ่ายความมั่นคง” มั่นใจระบบไซเปอร์กองทัพแน่นหนาเจาะเข้ามายาก เตือนการโจมตีไซเบอร์เครือภาครัฐ ถือเป็นภัยคุกคามต่อโลกโดยส่วนรวม มีโทษร้ายแรงเป็นสากล หากพบใครทำติดคุกยาว ไม่มีละเว้น ในต่างประเทศ เช่น กฏหมายของสหรัฐฯ ปธน.อาจมีอำนาจสั่งใช้อาวุธนิวเคลียร์จัดการการภัยคุกคามทาง Cyber อีกต่างหาก
เมื่อวันที่ 26 ต.ค. แหล่งข่าวจากความมั่นคง กล่าวกับ The Key News ถึงกรณีที่คณะราษฎรประกาศเปิดศึกสงครามไซเบอร์กับรัฐบาลโดยจะถล่มเว็บไซต์และสารสนเทศ 5 หน่วยงาน ซึ่งหนึ่งในนั้นมีกองทัพบกด้วย เพื่อกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออกนั้นว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงเฝ้าติดตามอยู่ว่าทางกลุ่มคณะราษฎรจะดำเนินอย่างไร จะดูว่าเขาจะใช้วิธีการแบบไหน เพราะการจะเจาะเข้ามาในเว็บไซต์ของกองทัพไม่ได้ทำง่าย ๆ อีกทั้ง ระบบของกองทัพเป็นระบบปิด ไม่มีใครสามารถที่จะเจาะเข้ามาได้ง่าย อย่างไรก็ตามหากฝ่ายตรงข้ามดำเนินการ เราก็ต้องกำหนดการป้องกันที่เหมาะสม อุดรูรั่วช่องโหว่ และต้องเฝ้าระวังใกล้ชิดหากมีการละเมิด ต้องระงับเหตุ ฟื้นฟูระบบแล้ว รวบรวมหลักฐานเพื่อลงโทษทางกฎหมาย
การที่ เครือข่ายนักรบไซเบอร์เพื่อประชาธิปไตย Cyber 3 Fingers ประกาศจะทำการโจมตีทางเว็บไซต์และระบบสารสนเทศของภาครัฐ ถือเป็นการกระทำละเมิดกฏหมาย ซึ่งการโจมตีทางไซเบอร์ Cyber Attack นั้น คือ การกระทำใด ๆ ที่ใช้คอมพิวเตอร์, เครือข่าย หรือระบบ รวมทั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตั้งใจแสดงตนเป็นภัยคุกคาม ขัดขวาง หรือทำลายระบบ, ทรัพยากร และการทำงานของไซเบอร์ที่สำคัญของฝ่ายตรงข้ามที่เห็นต่าง ผลกระทบที่ต้องการของการโจมตีทางไซเบอร์ อาจไม่จำเป็นต้องจำกัดเพียงระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลที่เป็นเป้าหมาย ตัวอย่างเช่น การโจมตีต่อระบบคอมพิวเตอร์ ที่ต้องการลิดรอน หรือทำลายโครงสร้างพื้นฐานสาธารณูปโภค หรือขีดความสามารถของระบบบัญชาการและควบคุม
การโจมตีทางไซเบอร์อาจจะต้องใช้พาหะตัวกลางในการดำเนินการ รวมทั้งอุปกรณ์ต่อเชื่อมต่าง ๆ (Peripheral Devices), เครื่องส่งสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Transmitters), การเข้ารหัส (Embedded Code), หรือเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน (Operators) กิจกรรมหรือผลกระทบของการโจมตีอาจจะเกิดขึ้นอย่างกระจัดกระจาย เป็นวงกว้าง หรือเป็นเฉพาะพื้นที่ที่เป็นเป้าหมาย และส่งผลให้เกิดความเสียหายของระบบเศรษฐกิจในวงกว้าง เพื่อที่จะรบกวน ลิดรอน เสื่อมลง ทำให้เสียหาย หรือทำลายข้อมูลที่อยู่ในระบบข้อมูลข่าวสารเป้าหมาย หรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือ ระบบ/เครือข่ายของอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
“ผลกระทบที่ต้องการอย่างยิ่งยวดอาจไม่ใช่ระบบที่เป็นเป้าหมายเพียงอย่างเดียว แต่อาจเป็นการปฏิบัติเพื่อสนับสนุนความพยายามที่สำคัญกว่านั้น เช่น การปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร หรือการต่อต้านการก่อการร้าย โดยใช้การเปลี่ยนแปลง (Altering) หรือการปลอมตัว (Spoofing) ต่อระบบการติดต่อสื่อสารต่าง ๆ หรือการลิดรอน (Denying) การเข้าถึงการติดต่อสื่อสาร หรือช่องทางการส่งกำลังบำรุงของอีฝ่ายหนึ่ง ทั้งนี้ การโจมตีไซเบอร์เครือข่ายภาครัฐถือเป็นการคุกคามต่อโลก โดยส่วนรวมมีโทษร้ายแรงเป็นสากล หากพบใครทำติดคุกยาว ไม่มีละเว้น อย่างในในต่างประเทศ เช่น กฎหมายของสหรัฐฯประธานาธิบดีอาจมีอำนาจสั่งใช้อาวุธนิวเคลียร์จัดการภัยคุกคามทาง cyber อีกต่างหาก” แหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคง กล่าว
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหน่วยงานความมั้นคง มีขีดความสามารถ และมีความพร้อมที่จะเผชิญสถานการณ์อยู่แล้ว รวมทั้งการใช้ทั้ง Hard Power, Soft Power และ Smart Power ด้วย Hard Killer & Soft Killer เพื่อดำเนินการปกป้องเครือข่าย และเข้าจับกุมกลุ่มคนประสงค์ร้าย ในฐานะที่เป็นภัยคุกคามต่อประเทศชาติ อย่างรวดเร็วและเด็ดขาดแน่นอน ฝ่ายความมั่นคง ยังคงเชื่อมั่นอีกว่า นี่อาจเป็นโอกาสดีที่จะจัดการกับเครือข่ายของกลุ่มคนทุรยศต่อประเทศชาติได้อย่างเด็ดขาดในคราวนี้.