“ภูมิธรรม” สั่งเดินหน้าคดีสีกากอล์ฟอย่างจริงจัง พร้อมให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมสนับสนุนตำรวจสอบสวนกลาง ชี้เป็นคดีที่สะเทือนใจสังคม กระทบศรัทธาพุทธศาสนา ย้ำ “ไม่จบแค่สึก” พร้อมทำให้เป็นคดีตัวอย่าง ไม่ปล่อยให้คนผิดลอยนวล
เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 14 ก.ค.ที่กระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกรณี “สีกากอล์ฟ” และพระสงฆ์ที่เกี่ยวข้องว่า ตนได้สั่งการให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าร่วมสนับสนุนการสอบสวนในคดีดังกล่าว เพื่อให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นก
นายภูมิธรรมกล่าวว่า คดีนี้สั่นสะเทือนความรู้สึกของประชาชน และส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางพุทธศาสนา ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญของสังคมไทย โดยในช่วงเช้าวันเดียวกัน ตนได้หารือกับอธิบดีดีเอสไอ พร้อมขอให้พิจารณาแนวทางการสนับสนุนตำรวจสอบสวนกลางที่ทำคดีอยู่แล้ว และยังได้โทรศัพท์พูดคุยกับ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างปฏิบัติราชการในต่างประเทศ โดยได้เน้นย้ำว่า คดีนี้ต้องดำเนินการอย่างจริงจัง
“ผมได้กำชับให้เริ่มต้นด้วยการตั้งข้อหา ‘สีกากอล์ฟ’ ให้ชัดเจนมากขึ้น พร้อมทั้งประสานกับดีเอสไอให้การสนับสนุนเพิ่มเติม โดยไม่จำเป็นต้องโอนคดีไปที่ดีเอสไอ เพียงแต่ให้ช่วยเสริมการทำงานของตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งพล.ต.ท.จิรภพก็ยินดี เพราะถือว่าเป็นคดีที่มีความสำคัญและอ่อนไหวต่อศรัทธาในสังคม” นายภูมิธรรมกล่าว
เมื่อถูกถามว่า ที่ผ่านมาคดีที่เกี่ยวข้องกับพระสงฆ์มักสิ้นสุดเพียงการให้ “ลาสิกขา” เท่านั้น นายภูมิธรรมตอบชัดว่า
“ไม่จบหรอกครับ งานนี้ไม่จบแน่นอน ผมให้ทำอย่างเต็มที่ และรวดเร็วที่สุด”
และเมื่อสื่อถามเพิ่มเติมว่า คดีนี้จะกลายเป็นคดีตัวอย่างของวงการสงฆ์หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า
“ต้องทำให้เป็นตัวอย่าง เพราะแม้จะไม่ใช่เหตุที่เกิดในวงการสงฆ์ทั้งหมด แต่ลักษณะของเรื่องนี้ถือเป็นการบ่อนทำลายความศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างร้ายแรง สิ่งเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้นอีก และถ้าเกิดขึ้น เราต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด ไม่ใช่แค่สึกแล้วจบ ผู้ก่อเหตุก็ไม่มีอะไร…แบบนั้นไม่ได้ ผมจะทำให้เห็นว่า สิ่งเหล่านี้…ทำไม่ได้ และไม่ควรเกิดขึ้นอีกในสังคม”
นายภูมิธรรมย้ำในตอนท้ายว่า ได้กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้บูรณาการร่วมกันอย่างจริงจัง เพื่อทำให้ความยุติธรรมเกิดขึ้น และเรียกความเชื่อมั่นของประชาชนกลับคืนมาให้ได้.











