“จุรินทร์”ยันคัดเลือกคนลงสมัครส.ส.เขตในพื้นที่ภาคใต้ ไม่มีปัญหา ยอมรับคนสมัครเยอะต้องแย่งกันลง โยนพรรคตัดสินคนที่เหมาะสมที่สุด
เมื่อวันที่ 23 ต.ค. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงความขัดแย้งในการจัดสรรบุคคลลงสมัครส.ส.เขตในพื้นที่ภาคใต้ ว่า ตนไม่คิดว่าจะเป็นปัญหา เพราะตนมองบวก ถ้าเราย้อนไปดูเมื่อปีที่แล้ว จะเห็นว่าการหาตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคยังอยู่ในภาวะที่มีคนปฏิเสธเยอะ ขณะเดียวกันมีผู้ที่แจ้งความจำนงไม่ลงสมัครหลายคน แต่มาถึงวันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป มีผู้สนใจทั้งเลือดใหม่ไหลเข้าเลือดเก่าไหลกลับ และคนรุ่นใหม่จำนวนมากที่แจ้งความจำนงสมัครรับเลือกตั้งในนามของพรรค และในพื้นที่ภาคใต้เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่มีผู้สนใจลงสมัครมาก ดังนั้นเมื่อเขตไหนก็ตาม มีผู้สนใจลงสมัครรับเลือกตั้งเกินกว่าหนึ่งคน ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร เป็นเรื่องปกติ เมื่อทุกคนแจ้งความจำนงก็อยากให้ได้รับเลือกจากพรรคให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งต้องขอขอบคุณที่ให้ความสนใจกับพรรค แต่สุดท้ายพรรคมีกระบวนการในการพิจารณาตามกฏหมายและข้อบังคับของพรรค และที่สุดจะมีข้อยุติโดยมติของพรรค ดังนั้นไม่เป็นปัญหาอะไร เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมพรรคก็จะต้องตัดสินใจ
ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นใน จ.พัทลุง จะมีการเคลียร์ใจกับ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคและอดีต ส.ส. พัทลุง เขต 2 เจ้าของพื้นที่หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนไม่ขอพูดถึงตัวบุคคล แต่กระบวนการของพรรคมีอยู่แล้ว ส่วนที่มีการมองว่าบางเขตให้คนตระกูลเดียวกันมาลงสมัครรับเลือกตั้งอาจจะเป็นปัญหาได้นั้น ตนจะดูตามความเหมาะสม โดยพรรคจะดูว่า ผู้ใดมีความเหมาะสมที่สุด ซึ่งกรรมการบริหารพรรคมีดุลยพินิจอยู่แล้ว โดยจะพิจารณาสิ่งดีที่สุดกับพรรค
สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นจะต้องมีการเคลียร์ใจกันหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนคิดว่า ทุกคนเข้าใจอยู่แล้วว่า ขั้นตอนกระบวนการของพรรคเป็นอย่างไร ส่วนภาพที่ออกมาดูเหมือนจะเป็นความขัดแย้งกัน ก็เป็นธรรมดา เขตไหนที่มีผู้สมัครหลายคนหลายท่าน ถ้าต้องพูดแบบธรรมดาหน่อย เมื่อมีคนสนใจก็ต้องแย่งกันลง พรรคไหนก็ต้องเป็นอย่างนั้น เมื่อมีผู้สมัครเกินกว่า 1 คน ยืนยันว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น จะไม่เป็นรอยร้าวให้กับพรรค เพราะที่สุดแล้วมติพรรคจะเป็นผู้ตัดสิน ทุกคนก็จะเคารพตามนั้น ส่วนมั่นใจหรือไม่ว่าจะชนะในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่นั้นเชื่อว่าเราเดินขึ้น อย่างน้อยที่สุดปัจจัยที่มีผู้สนใจสมัครรับเลือกตั้งหลายท่าน ก็เป็นปัจจัยชี้วัดตัวหนึ่งและปัจจัยตัวอื่นด้วย ซึ่งต่างจากปีก่อนๆ ที่ผ่านมาหลังการเลือกตั้ง
