คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐอนุมัติขยายเพดานหนี้ตามพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของภาครัฐ ทำให้ก่อหนี้ภาครัฐต่อสัดส่วนงบประมาณจากเดิมที่กำหนดไว้ที่ 30% เป็น 35% เป็นเวลา 1 ปี
เมื่อวันที่ 24 พ.ย.64 ทำเนียบรัฐบาล นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง แถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ว่าจากข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือเรื่องการหาเงินมาจ่ายให้กับเกษตรผู้ปลูกข้าวตามนโยบายการประกันรายได้ผู้ปลูกข้าวตามนโยบายของรัฐบาล
ภายหลังจากที่มีการอนุมัติจ่ายเงินงวดแรกไปประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท และคงเหลือวงเงินที่ต้องจ่ายตามโครงการอีกประมาณ 8 – 9 หมื่นล้านบาทโดยในการดำเนินการจ่ายเงินให้กับชาวนาต้องมีการขยายเพดานหนี้ในมาตรา 28 ตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของภาครัฐ ในส่วนการก่อหนี้ภาครัฐต่อสัดส่วนงบประมาณจากเดิมที่กำหนดไว้ที่ 30% เป็น 35% เป็นเวลาชั่วคราว 1 ปี
ส่งผลให้มีสัดส่วนที่ภาครัฐจะก่อหนี้เพิ่มอีกประมาณ 1.55 แสนล้านบาท ซึ่งพอต่อการจ่ายเงินให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในโครงการประกันรายได้ชาวนา รวมทั้งได้เตรียมแนวทางการขอใช้งบกลางรายการสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินและจำเป็นเร่งด่วน 2565 ในการสนับสนุนโครงการบางส่วนด้วย
ทั้งนี้จะมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้การแก้ไขเพดานหนี้ตามมาตรา 28 มีผลอย่างเป็นทางการและในสัปดาห์หน้า คณะรัฐมนตรีจะมีการพิจารณา (ครม.) อนุมัติวงเงินในส่วนการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในส่วนที่เหลือ และคาดว่าเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนแล้วจะได้เงินภายในเดือน ธ.ค.นี้
“นายกฯมีความเป็นห่วงว่าการได้เงินของชาวนาจะขาดช่วง จึงเร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งที่ผ่านมายังไม่สามารถอนุมัติได้เพราะวงเงินตามมาตรา 28 เหลือแค่ประมาณ 5300 ล้านบาทเท่านั้น แต่เมื่อมีการขยายสัดส่วนวงเงินแล้วการอนุมัติจะไม่ช้า และเกษตรกรจะได้เงินภายในเดือน ธ.ค.นี้”นายอาคม กล่าว