เกษตรกรชาวนาอีสานปลื้ม “หญิงหน่อย” ชี้เป็นความหวังช่วยชาวนาแก้ไขปัญหาราคาข้าว หลังต้นทุนเพิ่มสูงในรอบ 10 ปี สวนทางราคาข้าว
นาย ชัชวาล แพทยาไทย ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดร้อยเอ็ด พรรคไทยสร้างไทย เปิดเผยว่า หลังจากลงพื้นที่รับฟังปัญหาพี่น้องเกษตรกรชาวนาผู้ปลูกข้าวที่จังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ได้มอบหมายให้คุณชัชวาล แพทยาไทย ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดร้อยเอ็ด พรรคไทยสร้างไทย และทีมไทยสร้างไทยจังหวัดร้อยเอ็ด ดำเนินโครงการนำร่องช่วยชาวนารับซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิในราคา 12 บาท/กก. จำนวน 20 ตัน เป็นจำนวนเงิน 240,000 บาท เพื่อช่วยเหลือชาวนาภาคอีสาน จากปัญหาต้นทุนการผลิตที่สูงสุดในรอบ 10 ปี สวนทางกับราคาขายข้าว
โดยได้รับซื้อจากสหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย ที่ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งสิ้น 8,998 ครอบครัว ซึ่งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่เข้มแข็งอย่างมากในจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อนำมาขายให้กับคนกรุงเทพมหานครได้บริโภคข้าวหอมมะลิที่ดีมีคุณภาพจากทุ่งกุลาร้องไห้
กระแสตอบรับจากเกษตรกรชาวนาจังหวัดร้อยเอ็ด ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกดีใจที่พรรคไทยสร้างไทยให้ความสำคัญเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวนา ทำให้ชาวนามีขวัญกำลังใจในการทำนา โดยมีคุณหญิงสุดารัตน์ เป็นความหวังในการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรชาวนา เพราะปัจจุบันต้นทุนการผลิตข้าวทุ่งกุลาอยู่ที่ไร่ละ 3,000-3,500 บาท แต่ผลผลิตข้าวอยู่ที่ประมาณ 300 -350 กก./ไร่ ซึ่งราคาข้าวตอนนี้แม้ว่าจะขึ้นมาที่ราคาประมาณ 8-9 บาท ประมาณ 2,400 -3,150 บาท/ไร่ แต่ชาวนาก็ยังขาดทุนจากต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น เพราะชาวนาได้ขายข้าวไปตั้งแต่กก.ละ 6 บาทแล้ว หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตในช่วงต้นฤดูการเกี่ยวข้าว
ทั้งนี้ หากมองการชดเชยจากรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา ทั้งโครงการประกันราคาข้าวหรือ โครงการอื่นๆภายใต้งบประมาณปีละ 200 ล้านบาท เป็นจำนวนเงินที่สามารถทำระบบชลประทานที่ดีได้ ซึ่งการบริหารจัดการน้ำทางการเกษตรในพื้นที่อย่างเป็นระบบ จะทำให้ชาวนาสามารถลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตได้ แต่สิ่งที่รัฐบาลได้กระทำคือ ทำให้เกษตรกรชาวนาเสพติดการรอความช่วยเหลือจากรัฐบาล เปรียบเสมือนการเลี้ยงไข้ชาวนา โดยนำข้าวมาเป็นสินค้าการเมือง ดังนั้นรัฐบาลต้องแสดงความจริงใจในการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรชาวนา ซึ่งโครงการนำร่องรับซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิชาวนาของพรรคไทยสร้างไทย เป็นสิ่งที่ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า หากรัฐบาลมีกลไกตลาดที่ดี จะสามารถดันราคาข้าวให้อยู่ที่ราคา 12-15 บาทได้
พรรคไทยสร้างไทย ได้เสนอแนวทางระยะสั้นว่ารัฐบาลต้องหากลไกตลาดในการระบายข้าวในปีนี้ให้มากที่สุด เพื่อให้เกษตรกรชาวนาสามารถลืมตาอ้าปากได้ จากนั้นในระยะกลางให้ชะลอการขายข้าว โดยให้ชุมชนมียุงฉ้าง และเครื่องอบข้าว เพื่อลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ส่วนมาตรการระยะยาว จะต้องมีการลดพื้นที่การเพาะปลูกข้าว เพื่อควบคุมปริมาณข้าวไม่ให้มากจนเกินไป