“พชร นริพทะพันธุ์” เผย‘เพื่อไทย’ เสนอนโยบายพัฒนากรุงเทพฯ 7 ข้อ สนับสนุน ส.ก. หวังชนะทั้ง 50 เขต โวลั่นหากเลือกพรรค กทม.-ไทย พัฒนาไปไกลระดับ World Class แน่
เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.64 นายพชร นริพทะพันธุ์ กรรมการบริหาร และคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะส่งผู้สมัครลงแข่งขันชิง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) หรือจะสนับสนุนผู้สมัครอิสระ ท่านใดท่านหนึ่งเพื่อให้ชนะการเลือกตั้ง แต่พรรคเพื่อไทยจะส่งผู้สมัคร สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ครบทั้ง 50 เขต ที่ได้ลงพื้นที่และทำงานกันอย่างหนักมาโดยตลอด ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนชาว กทม. ให้เป็นตัวแทนในการเข้าไปพัฒนากรุงเทพมหานครให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ทั้งนี้ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยจึงขอเสนอ 7 นโยบายเพื่อให้ชาว กทม. ได้เลือกผู้แทนของพรรคเพื่อไทย เข้าไปช่วยพัฒนา กทม. โดยอยากเห็น กทม. เป็นเมืองในอนาคตในรูปแบบต่างๆ ดังนี้
1. “กทม. เมืองแห่งโอกาส” โดยพรรคเพื่อไทยต้องการกระจายโอกาสทางเศรษฐกิจ ผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน นโยบายการใช้ที่ดินของ กทม. และ ที่ดินของ นสล. ที่รวมถึงที่ดินของกรมธนารักษ์ เพื่อให้ประชาชนได้เปิดพี้นที่ในการพัฒนาสร้างที่ทำมาหากินเช่น ตลาด, Street Food และ bazaar ระดับโลก โดยเฉพาะ ประเทศไทยมีชื่อเสียงเรื่อง Street Food มาก
ดังนั้นการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวแบบ Street Food ควรได้รับการพัฒนาให้มีชื่อเสียงกว่า Street Food ของประเทศสิงคโปร์ พร้อมทั้งการกระจายอาคารจอดรถ เพื่ออำนวยความสะดวก พร้อมที่จอดและที่ชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
พร้อมทั้งสร้าง Techology Space กระจาย ตาม เขตต่างๆ เปิดโอกาสให้ คนรุ่นใหม่ เสนอ digital solution เพื่อ เขตของตนเอง โดยมีงบ กทม สนับสนุน พร้อม crowd funding ที่ไม่ต้องผ่านระบบราชการ แต่ผ่านการ มีส่วนร่วมของ คนในพื้นที่ ทั้งหมดนี้จะเป็นการสร้างโอกาส เพื่อสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้นกับชาว กทม.
2. “กทม. มหานครดิจิตัล” โดยจะพัฒนา กทม. เป็นต้นแบบ เป็นนโยบายเมืองมหานคร ของพรรคเพื่อไทย ลดต้นทุนการใช้งบประมาณจากภาษีประชาชน และคืนกลับให้ประชาชน ด้วยโครงสร้างถนน และทางเท้าเทศบาลที่ดีขึ้น การบริการที่รวดเร็ว และไม่ซับซ้อน รวมถึงระบบ สาธารณสุข และ โรงเรียนในเครือข่ายของ กทม.
การเข้าถึงระบบสาธารณสุข การไปโรงพยาบาลโดยไม่ต้องรอเกิน 30 นาที โรงเรียนที่มีคุณภาพ ไม่มีรถติดหน้าโรงเรียนสร้างความเดือนร้อนกับผู้เดินทาง โดยการเปลี่ยนและพัฒนาแพลตฟอร์ม และทุกแพลตฟอร์มจะพัฒนาจากการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่ โดยไม่ใช้งบประมาณแบบเดิมๆ หรือ พัฒนาจากการยัดเยียด โดยจะเป็นแนวทางและรูปแบบในการพัฒนาทุกจังหวัดทั้งประเทศในอนาคต
3. “กทม. ระบบขนส่งของ คน กทม.” พรรคเพื่อไทยเสนอให้เจรจาปรับเปลี่ยนการเชื่อมโยงระบบขนส่งมวลชน การทางพิเศษ ทั้งหมดต้องกลับมาเป็นของ กทม ค่าเดินทางต้องไม่เกิน 40 บาท ทั้งสาย รถโดยสารประจำทางต้องราคาเดียว ไม่เกิน 10 บาท รถเมล์รุ่นเก่าที่ปล่อยมลภาวะต้องหมดไป ค่าโดยสาร รถไฟลอยฟ้า และ รถไฟใต้ดิน ต้องราคาเดียว 30 บาท ต่อสายของแต่ละสี สำหรับคนที่อาศัยอยู่ในเขตของ กทม. ทั้งหมด
4. “กทม. คอนเน็ค” กทม. จะต้องให้บริการอินเตอร์เน็ตในบริเวณเมือง ป้ายรถเมล์ ที่จอดรถแท็กซี่ ตลาด สถานที่สาธารณะ และ สถานีรถไฟฟ้า รถไฟลอยฟ้า และ รถใต้ดิน ต้องฟรี และรวดเร็ว
5. “กทม เมืองฟ้าใส ไร้ฝุ่น” เริ่มจาก ตัวเมืองชั้นใน ต้องจำกัดเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้นโดยกำหนดไว้ต้องภายใน 10 ปี รถยนต์ของราชการต้องเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้นภายใน 4 ปี รถประจำทาง ต้องเป็นรถพลังงานไฟฟ้าเท่านั้น โดยต้องเริ่มทำทันที ทั้งนี้รถก่อสร้างขนาดใหญ่ จะเข้า กทม. ได้เฉพาะช่วงกลางคืน เท่านั้น และต้องเป็นรถพลังงานไฟฟ้าภายใน 15 ปี
6. “กทม. เมืองของประชาชน” มุ่งความโปร่งใสอับดับหนึ่ง สร้างการมีส่วนร่วมในการตรวจสอบงบประมาณในพื้นที่ผ่านการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยสามารถตรวจสอบผ่านทั้งออนไลน์และออฟไลน์ได้
7. “กทม. ดุ จับ ปรับ สะอาด” โครงการแบบ “ตาวิเศษ” ต้องนำกลับมาใหม่ ผ่าน ระบบดิจิตัล จับ ปรับ คนทิ้งขยะ และทำความสกปรกแก่เมือง สร้าง ecosystem สำหรับเมืองสะอาด และ กำจัดสิ่งของและขยะที่สร้างความสกปรกให้กับ ถนน คลอง เพื่อเป็นเมืองฟ้าอมร อีกทั้งส่งเสริมการใช้พลาสติกที่ย่อยสลายได้ (Bio-degradable) เพื่อแก้ไขปัญหามลภาวะ นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงการลดคาร์บอน (decarbonization) ซึ่งจะเป็นทิศทางของโลกด้วย
นี่เป็น 7 แนวทางเบื้องต้นเท่านั้น โดยยึดหลัก “ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส” ที่เป็นหลักคิดของพรรคเพื่อไทยมาตลอด ซึ่งคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยจะมีแนวทางเสนอแนะออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยหวังว่า แนวทางการพัฒนา กทม. จะเป็นแนวทางในการพัฒนาทุกจังหวัดทั้งประเทศในอนาคต เพื่อให้ประเทศไทยทันสมัยรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกได้
โดยหากผู้สมัครผู้ว่า กทม. คนใดสามารถนำไปทำได้จะเป็นประโยชน์กับ กทม. อย่างมาก โดยพรรคเพื่อไทยจะเสนอแนวทางนี้ผ่าน ส.ก. ทั้ง 50 เขต ที่พรรคเพื่อไทยจะส่งลงสมัคร และอยากขอให้ชาว กทม. ให้โอกาสพรรคเพื่อไทย โดยเลือกผู้สมัคร ส.ก. ของพรรคเพื่อไทยทั้ง 50 เขต เพื่อนำแนวนโยบายไปปรับใช้ในการพัฒนากรุงเทพมหานครให้เป็นเมืองระดับ World Class ให้ได้