“ดร.เอ้-สุชัชวีร์”เผยไม่โกรธปมดราม่าทายาท”ไอน์สไตน์ เข้าใจเมื่อก้าวออกมาทำงานการเมืองก็เจอรับน้องทางการเมือง แต่ขอให้รับน้องกันเบาๆ เชื่อไม่กระทบคะแนนเสียง
เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.64 ที่วัดเสมียนนารี นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) และผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) จะมีขึ้นกลางปี 2565 ว่าการที่ตนประกาศตัวลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา ได้ประกาศชัดเจนว่าขออาสามารับใช้ เป็นหัวหมู่ทะลวงฟันให้คน กทม.เพื่อที่จะเปลี่ยนกรุงเทพฯ เพราะเราเชื่อมั่นว่าเราทำได้ เพราะวันนี้กรุงเทพฯ ต้องการการเปลี่ยนแปลงจริงๆ โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมที่ถือเป็นภารกิจแรกที่ขอมาแก้ปัญหา โดยตนมีแผนแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพราะถ้าไม่เริ่มต้นแก้วันนี้อนาคตกรุงเทพฯลำบากแน่นอน
นอกจากนี้อยากจะขออาสามาเป็นผู้ว่าการศึกษากรุงเทพมหานคร เพราะอยากให้คนกรุงเทพฯส่งลูกหลานเรียนใกล้บ้าน ไม่ใช่ว่าจะต้องปลุกลูกตี 4-5 และเสียเงินแพงๆ เพื่อส่งลูกเรียนโรงเรียนข้ามเมือง เพราะคนกรุงเทพฯไม่เชื่อในโรงเรียนของ กทม.ที่อยู่ใกล้ ดังนั้น ตนจะมาเปลี่ยนโรงเรียน กทม.ใน 50 เขต 50 โรงเรียน ให้เป็นโรงเรียนสาธิตที่มีคุณภาพสูงให้ได้
ส่วน อีกเรื่องที่ต้องการเปลี่ยนแปลงคือปัญหาเรื่องสุขภาพ วันนี้ต้องยอมรับว่าเราเผชิญปัญหาสุขภาพอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ดังนั้น เรื่องสุขภาพระยะยาวถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องผลักดัน ยกระดับการบริการศูนย์บริการสาธารณสุขของ กทม.ที่อยู่แค่หน้าปากซอย แต่ไม่มีคนไปใช้บริการ ซึ่งสาเหตุอาจจะมาจากไม่มีหมอ เครื่องมือแพทย์ไม่พร้อม ซึ่งตนตั้งใจว่าจะยกระดับศูนย์บริการสาธารณสุขเป็นศูนย์การแพทย์ ที่มีหมอ มีเครื่องมือแพทย์ มีเครื่องฟอกไตอยู่ทุกศูนย์
นายสุชัชวีร์ ยังกล่าวถึงประเด็นดราม่าที่เป็นทายาทสายตรงของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ว่า ตนเป็นลูกศิษย์ศาสตราจารย์เฮอร์เบิร์ต ไอน์สไตน์ จริงๆ และเป็นความเชื่อ และความศรัทธาโดยบริสุทธิ์ใจ ไม่ใช่ตนเชื่อและศรัทธาคนเดียวเท่านั้น ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่มีโอกาสไปเรียนกับศาสตราจารย์เฮอร์เบิร์ต ไอน์สไตน์ ก็ถูกบอกเล่าอย่างนั้น ซึ่งศาสตราจารย์เฮอร์เบิร์ต ไอน์สไตน์ เป็นคนเก่ง เป็นคนดี ทำให้เราศรัทธาจริงๆ ตนเข้าใจเมื่อก้าวออกมาทำงานการเมืองก็เจอรับน้องทางการเมือง แต่ขอให้รับน้องกันเบาๆ หน่อย ไม่ได้โกรธใครเลย และเห็นใจศาสตราจารย์เฮอร์เบิร์ต ไอน์สไตน์ ที่ต้องมาเจอเหตุการณ์นี้ ซึ่งพร้อมอธิบายอย่างชัดเจนและตรงไปตรงมา เมื่อเกิดเรื่องทางพรรคก็ให้กำลังใจ บอกว่าต้องอดทน ส่วนเมื่อมีดราม่าจะทำให้คะแนนนิยมลดลงหรือไม่ ตนเองไม่คิดเช่นนั้น เชื่อว่าคนกรุงเทพฯให้โอกาสคน และตนไม่ว่าอะไรที่หลายคนติดภาพว่าเป็นคนคุยโม้ เเพราะเจอมาเป็นประจำอยู่แล้ว คนเราต้องกล้าพูด
ส่วนที่ มองว่าคู่แข่งที่ออกมาตอนนี้คือ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม น่ากลัวหรือไม่ นายสุชัชวีร์กล่าวว่า มองว่าการแข่งขันยังมีเวลาอีกเยอะ ดังนั้น เราต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุด และเข้าใจว่าหลายคนอาจจะเบื่อผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์แล้ว อยากจะให้ประชาชนหายงอน และอยากให้ดูความตั้งใจในการทำงานในปัจจุบัน มีกระแส มีพลังในการเปลี่ยนแปลง และสิ่งที่นำเสนอไปนั้นต้องการเปลี่ยนกรุงเทพฯ จริงๆ