“ชัชชาติ”เปิดตัว “ดร.พิจิตร รัตตกุล”อดีตผู้ว่าฯกทม.ร่วมทีม มั่นใจลงในนามอิสระทำงานได้สะดวกยืนยันไม่ได้ขัดแย้งกับพรรคเพื่อไทย
เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 19 ธ.ค. 64 ที่ชุมชนคลองพิทยาลงกรณ์ บางขุนเทียน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในนามอิสระ ลงพื้นที่บางขุนเทียน เพื่อรับฟังเสียงสะท้อนจากพื้นที่ชายทะเลบางขุนเทียน ซึ่งกำลังเผชิญปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งและการพัฒนาพื้นที่ พร้อมกับเปิดตัว นายพิจิตต รัตตกุล อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมแนวร่วมทำงานเมืองอิสระมาร่วมทีม
โดย นายพิจิตต กล่าวว่า ตนกับอ.ชัชชาติเคยทำงานมาด้วยกัน แม้แต่ปี 54 ไปทำเรื่องบิ๊กแบคก็ได้อ.ชัชชาติมาช่วยด้วย รู้สึกชอบวิธีการแก้ปัญหเข้าถึงลูกถึงคน และยินดีที่ได้เข้ามาร่วมช่วยงานกับ ทีมของชัชชาติ ที่เป็นคนทำงานจริงจัง ทำให้กรุงเทพฯดีขึ้น โดยจะใช้ประสบการณ์จากความเป็น ผู้ว่าฯ ในอดีตมาช่วย ดีใจที่ได้มาช่วยคนที่ต้องการมาช่วยกทม.ให้ดีขึ้น และการที่อ.ชัชชาติเปิดตัวในนามอิสระตนคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะเป็นการดึงคนมาร่วมงานได้มากขึ้น และยิ่งถ้าหากว่าอ.ชัชชาติได้เป็นผู้ว่าฯกทม.ก็จะต้องการความช่วยเหลือจากคนได้มาก ทำไม่ได้คนเดียวไม่ใช่ซุปเปอร์แมน แต่คนกทม.ต้องเอาด้วยกับผู้ว่าฯกทม.คนต่อไปด้วย
ด้านนายชัชชาติ กล่าวถึงการจัดการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ว่า รัฐบาลควรมีการจัดการเลือกตั้งให้เร็วที่สุดเพราะขณะนี้ล่าช้ามากว่า 2 ปีแล้ว รัฐบาลควรจัดการเลือกตั้งให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร(ส.ก.)ที่ต้องทำงานใกล้ชิดกับประชาชนแต่ปัจจุบัน เหลือผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้เพียง 27 คน ทั้งนี้หากรัฐบาลตัดสินใจจะจัดการเลือกตั้งก็ควรจัดให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯไปพร้อมกับ ส.ก.ในคราวเดียวกัน เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณและจะทำให้ประชาชนตื่นตัวและจะทำให้ประชาชนตื่นตัวออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งจำนวนมากเนื่องจากเป็นการเลือกตั้ง 2 อย่าง
ส่วนการตัดสินใจลงในนามอิสระ เชื่อมั่นว่าจะทำงานได้สะดวก และสามารถประสานการทำงานร่วมกับคนที่มีความรู้ความสามารถได้สะดวก โดยไม่ต้องกังวลเรื่องพรรคการเมือง ส่วนถ้าจะมีพรรคการเมืองใดมาสนับสนุนตนเองก็น่าจะเป็นเพราะนโยบายที่นำเสนอ พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ขัดแย้งกับพรรคเพื่อไทย เพราะอดีตก็เริ่มต้นมาจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งทำให้ รู้จักงานการเมือง และอดีตไม่มีทางก้าวผ่านได้ แต่อนาคตอยู่ที่เรากำหนดเอง อย่างไรก็ตามการที่ นายพิจิตร มาร่วมงานด้วยจะเป็นการดึงฐานเสียงจากพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่นั้น ยืนยันไม่อยากให้คิดเรื่องฐานเสียง แต่เห็นว่าเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์จึงอยากขอความรู้ สิ่งใดที่ทำมาแล้วดีก็สานต่อ แต่สิ่งใดไม่มีก็จะแก้ไขปรับปรุง
