“พรรคภูมิใจไทย” กำหนดยุทธศาสตร์ “ท็อปทรี” สำหรับเลือกตั้งครั้งหน้า เป็นรอง “พรรคเพื่อไทย” ที่คว้าอันดับหนึ่ง “พรรคพลังประชารัฐ” อันดับสอง
เป้าหมายชัด วางงานสะดวก ไม่ถูก “เครือข่ายผู้เฒ่า 3ป.” เขม่นใส่ เริ่มตั้งแต่กำชับลูกพรรค แถลงหรือให้ข่าวเกี่ยวกับนโยบายของ “ภูมิใจไทย” การบริหารงานในกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม เน้นย้ำให้พูดถึงชื่อ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ก่อนทุกครั้ง แล้วตามด้วยรัฐมนตรีของพรรค
แม้กระทั่ง “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข แม่ทัพใหญ่ภูมิใจไทย พูดถึงการตบโบนัสให้ชาว อสม. ยังเอ่ยอ้างถึง “บิ๊กตู่” ก่อน ที่กดปุ่มไฟเขียวให้ชาว อสม. ถึงได้เฮ
ทั้งหมดทั้งปวงเกิดจากกติการัฐธรรมนูญ ยังกำหนดให้ส.ว. 250 คน มีเขี้ยวเล็บโหวตนายกฯได้ ต่อให้ “เสี่ยหนู” คิดการใหญ่ขึ้นเป็นนายกฯ เท่ากับวิ่งไปกลางทะเลทราย อันตรายเสี่ยงต่อชีวิตการเมืองรออยู่ข้างหน้า
ขอเอาชัวร์หลังเลือกตั้ง นอนเกาะสะดือรอเป็นรัฐบาล ยกเว้น “พลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน” พรรคพลังประชารัฐจับมือพรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาล
เป็นที่มาเปิดประตูบานใหญ่โคราชสู่ภาคอีสาน โดยจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีขึ้นที่สนามกีฬาประจำจังหวัด อาคารชาติชาย ฮอลล์ ต่างกับพรรคการเมืองอื่น “เพื่อไทย-พลังประชารัฐ-ก้าวไกล” มุ่งปักหมุดที่จ.ขอนแก่น
“เจ้าพ่อกัญชา” ผู้สวมหนังเสือแบรนด์ “บุรีรัมย์” ชิงจังหวะเปิดตัวผู้นำทางการเมือง สืบทอดอำนาจ “น้าชาติ” พล.ชาติชาย ชุนหะวัณ อดีตนายกฯ เพราะเคยวิ่งนอกออกในบ้านราชครูมาตั้งแต่รุ่นพ่อ คือ “ปู่จิ้น” เชาวรัตน์ ชาญวีรกูล
ฉะนั้นอย่างน้อยขอรุกคืบขยายพื้นที่การเมืองในโคราช เดิมทีมี 14 เขต ภูมิใจไทยปักหมุดได้ 3 ที่นั่ง ประกอบด้วย อภิชา เลิศพชรกมล–วิสิทธิ์ พิทยาภรณ์–พรชัย อำนวยทรัพย์
พอกติกาเลือกตั้งใหม่เพิ่มส.ส.เขตเป็น 400 คน โคราชงอกขึ้นมาอีก 2 เขต เป็น 16 เขต ขอเพิ่มส.ส.อีก 1 คน ในจังหวัดใหญ่ ย่อมสร้างเครดิตให้แม่ทัพใหญ่ภูมิใจไทย
พลังดีสลับขยับทำงานร่วมหัวจมท้ายมาตลอดกับ “สุขาติ ภิญโญ” ส.ส.โคราช เพื่อไทย ส่งสัญญาณเดือดไปถึงพรรคการเมืองอื่นทันที โดยเฉพาะ “เพื่อไทย” และ “พลังประชารัฐ”
พลังประชารัฐ นำโดยตระกูล “รัตนเศรษฐ” ครองเก้าอี้ 6 ที่นั่ง เพื่อไทย 4 ที่นั่ง ภูมิใจไทย 3 ที่นั่ง ชาติพัฒนา นำโดยตระกูล “ลิปตพัลลภ” 1 ที่นั่ง
“ภูมิใจไทย” กำลังออกแรงลบชื่อตระกูล “รัตนเศรษฐ-ลิปตพัลลภ” ออกจากกระดานการเมืองในครั้งหน้า และสร้างตระกูลการเมืองใหม่ในนาม “ภูมิใจไทย” ขึ้นมา
เพื่อเปิดประตูขยายฐานการเมืองไป 5 จังหวัดอีสานใต้ มีส.ส. 50 คน ประกอบด้วย นครราชสีมา 16 คน บุรีรัมย์ 10 คน ศรีสะเกษ 9 คน สุรินทร์ 8 คน และชัยภูมิ 7 คน
ซึ่งตอนนี้มีส.ส.ในมือ 14 คน และดีลลับส.ส.พรรคอื่น ที่ทำการเมืองร่วมหัวจมท้ายกันอีก 7 คน ทำให้มีส.ส.ในก๊วนมี 21 คน เป็นนครราชสีมา 1 คน บุรีรัมย์ 2 คน สุรินทร์ 1 คน ศรีสะเกษ 3 คน
ขอแค่ขยายฐานการเมืองไป 5 จังหวัดอีสานใต้ ขอแค่ 25 ที่นั่ง
ดูแล้วไม่น่าจะยากเกิน “เจ้าพ่อกัญชา” ผู้สวมหนังเสือแบรนด์ “บุรีรัมย์” เพราะตระกูล “รัตนเศรษฐ” กำลังเผชิญมรสุมคดีก่อสรางสนามกีฬาฟุตซอล ย่อมปั่นป่วนภายในตระกูล กระทบต่อฐานเสียงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่นเดียวกันตระกูล “ลิปตพัลลภ” กำลังชั่งใจเดินหน้าต่อหรือล้างมือในอ่างทองคำดี
นับเป็นย่างก้าวการเมืองที่สำคัญของ “เจ้าพ่อกัญชา” รอจังหวะ 250 ส.ว.หมดเขี้ยวเล็บ ก่อนสยายปีกบินขึ้นเป็นพรรคเบอร์ 1
……………………
คอลัมน์ : ไขกุญแจ-ไขแหลก
โดย #ราษฎรเต็มขั้น