ธ.ก.ส. เผยผลการโอนเงินประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 แล้วกว่า 83,000 ล้านบาท มีเกษตรกรได้รับประโยชน์กว่า 4.47 ล้านครัวเรือน ด้านค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โอนแล้วกว่า 53,000 ล้านบาท เกษตรกรได้รับประโยชน์กว่า 4.59 ล้านครัวเรือน รวมเป็นเงินกว่า 136,000 ล้านบาท
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ในฐานะประธานกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติวงเงินงบประมาณ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในการแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ผ่านระบบ ธ.ก.ส. จำนวน 2 โครงการ ซึ่งมีผลการดำเนินงาน ดังนี้
1. โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 เป้าหมายเกษตรกร 4.69 ล้านครัวเรือน โดยประกันรายได้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว 5 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกเขต ตันละ 14,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน
ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ครัวเรือนละ ไม่เกิน 25 ตัน และข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน ซึ่งเบื้องต้นกรมส่งเสริมการเกษตรได้ส่งข้อมูลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรให้ ธ.ก.ส. แล้วจำนวน 4.54 ล้านครัวเรือน
โดย ธ.ก.ส. ได้ดำเนินการโอนเงินส่วนต่างการประกันรายได้เข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงแล้ว 4,473,429 ครัวเรือน เป็นเงิน 83,483 ล้านบาท ทั้งนี้ ในส่วนของตัวเลขเกษตรกรที่เหลือ อยู่ระหว่างการปรับปรุงข้อมูลการผลิตจากกรมส่งเสริมการเกษตรรวมถึงข้อมูลบัญชีเงินฝากของเกษตรกรให้ถูกต้องอีกครั้งหนึ่ง เพื่อดำเนินการโอนให้เกษตรกรต่อไป
2. โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 โดยรัฐบาลสนับสนุนเงินให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 รอบที่ 1 กับ กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในอัตราไร่ละ 1,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน 20,000 บาทต่อครัวเรือน ซึ่ง ธ.ก.ส. ดำเนินการโอนเงินดังกล่าวเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงแล้ว 4,590,392 ครัวเรือน เป็นเงิน 53,180 ล้านบาท