“ธรรมนัส” ฟันธง ปม “สส.ชนนพัฒฐ์” ถูกเชื่อมโยง “สแกมเมอร์” เป็นเรื่องเก่า ขอให้แยกแยะ อย่าเอามารวมกัน วอนสื่อเสนอข่าว ไม่ให้ประชาชนสับสน ขออย่ายุ่งเรื่องของคนอื่น หลังสื่อถาม กมธ.ทหาร เชิญ ‘กัน จอมพลัง’ ไปชี้แจง ย้ำไม่น้อยใจ ที่ถูกตรวจสอบมากกว่าคนอื่น
เมื่อวันที่ 30 ต.ค.68 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกมาเปิดชื่อ “นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว” สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม เชื่อมโยงกับ “แก๊งสแกมเมอร์” ว่า เมื่อช่วงเช้าได้ฟังนายชนนพัฒฐ์ ได้ชี้แจงตัวเองไปแล้ว ซึ่งดูแล้วเป็นเรื่องคดีเก่า ๆ ที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หากจะไปพูดถึงมาก ก็ไม่ดี ตอนนี้สังคมไทยมองว่า ทุกอย่างเป็นสแกมเมอร์ไปหมด
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องพยายามชี้แจง แยกแยะให้เห็นว่า เรื่องของแก๊งสแกมเมอร์ ก็คือความผิดประเภทหนึ่ง ส่วนเรื่องการพนันและออนไลน์ การค้ามนุษย์ก็เป็นความผิดอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งเราต้องแยกแยะ ตอนนี้ผสมกันไปหมด ขอร้องสื่อมวลชนต้องมีการเสนอข่าวที่มีความชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน ซึ่งตนเชื่อว่า หัวใจของการเป็นคนไทยที่รักแผ่นดินนี้ ไม่มีใครสนับสนุนแก๊งสแกมเมอร์แน่นอน เพราะลามไปถึงทุกครอบครัว ลูกตนอายุ 7 ขวบ แก๊งสแกมเมอร์ยังโทรเข้ามา ซึ่งถือเป็นภัยต่อสังคม
ส่วนที่คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐกิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เชิญร.อ.ธรรมนัส ไปให้ข้อมูล ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า สื่อก็เห็นว่าทำงานทั้งวัน เช้าและบ่ายมีภารกิจสำคัญ ซึ่งยอมรับว่าไม่มีเวลา เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือน ก็จะยุบสภาแล้ว เราก็ทำหน้าที่ในฐานะผู้บริหารให้ดีที่สุด และอีกบทบาทที่เป็น สส. ก็พยามที่จะทำอะไรให้เกิดประโยชน์กับประชาชนให้มากที่สุด
เมื่อถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่า นายชนนพัฒฐ์ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในทุก ๆ เรื่อง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เป็นเรื่องเก่าตั้งแต่ก่อนเข้าสู่เวทีการเมือง ซึ่งต้องเปิดโอกาสให้เขาได้ชี้แจง ตนจะไปชี้แจงแทนเขาไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ในฐานะที่เราเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรค ซึ่งวันนี้ตนจะได้คุยกับน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรค ในฐานะทีมกฎหมาย ซึ่งจากนี้ เราจะต้องตรวจสอบผู้ที่จะเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรค ที่จะลงสนามเลือกตั้ง จะต้องตรวจสอบทั้งหมด แต่ยอมรับว่านักการเมืองทุกคนมีอดีตทั้งหมด เชื่อว่าไม่ว่าพรรคไหนก็ตาม ทุกคนมีอดีตหมด หากจะไปเจาะจง โจมตี หรือแฉ ก็ถือว่าไม่มีความเป็นธรรม ซึ่งเขาได้ผ่านกระบวนการยุติธรรมมาหมดแล้ว
ถามว่า จะกระทบกับพรรคกล้าธรรมหรือไม่ ซึ่งในขณะนี้กำลังเติบโต ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ได้หารือกับกรรมการบริหารพรรค เมื่อวานนี้ว่า ได้ฝากเตือนทุกท่านว่า ขณะนี้ พรรคเราโตไวไปหน่อย แต่ถือเป็นเรื่องปกติที่จะถูกกระแสโจมตีพรรคและสมาชิก ซึ่งเราจะต้องแก้ไขกันภายในพรรค อย่างเมื่อวานนี้ ตนได้เรียกนายชนนพัฒฐ์ มาพบที่กระทรวง เพื่อสอบถามเรื่องราวต่าง ๆ ก็ขอว่า อะไรที่ชี้แจงได้ก็ขอให้ชี้แจง อย่าไปโต้วาทีกับผู้ที่มาตรวจสอบเรา เราเป็นนักการเมือง เราต้องพร้อมถูกตรวจสอบ ซึ่งทุกอย่างว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม
ส่วนจะดำเนินการกับผู้ที่ทำให้พรรคกล้าธรรมเสียหายหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องเฉพาะตัว แต่หากมีการพาดพิงถึงพรรค ประธานยุทธศาสตร์พรรคและฝ่ายกฎหมาย จะไปกำหนดยุทธศาสตร์และนโยบายพรรคว่าจะไปทำอย่างไร หากเกิดกรณีเช่นนี้เราจะทำอย่างไรได้บ้าง ซึ่งพรรคกล้าธรรมมีทีมกฎหมาย 20 คน
ถามต่อว่า รู้สึกอย่างไรที่พรรคกล้าธรรมถูกโจมตี ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ก็พูดอยู่นี่ ว่าแก๊งสแกมเมอร์ และการกระทำผิดใดก็ตาม ที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ต้องให้ความเป็นธรรมกับเขา อย่าเหมารวม สส. 400 กว่าชีวิตที่อยู่ในสภาฯ ทุกคนมีอดีตทั้งหมด จะให้เราซัดกันอย่างนั้นหรือไม่ ตนว่ามันไม่ดี อย่าไปทำ
ส่วนกังวลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ณ เวลานี้ต้องยอมรับว่า สังคมไทยเป็นสังคมก้มหน้า ฝ่ายหนึ่งก้มหน้าหาข้อมูลจากโซเชียล จากสื่อต่าง ๆ เราในฐานะที่เข้าสู่เวทีการเมือง เราก็ต้องปรับตัว แต่สำหรับพรรคกล้าธรรม เราต้องก้มหน้าทำงาน ไม่ใช่ก้มหน้าตรวจสอบคนอื่น ซึ่งเราเป็นผู้กระทำอย่าไปกระทำสวน ซึ่งทราบว่า เวลานี้มีบางพรรคการเมืองตั้งชุดเฉพาะกิจพิเศษในการตรวจสอบพรรคการเมืองเพื่อโจมตี หวังผลทางการเมือง ซึ่งพรรคกล้าธรรมจะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด และสิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้ แวดวงการเมืองปิดกันไม่ได้ ขอย้ำว่า เมื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว จะให้ประธานยุทธศาสตร์พรรคเป็นผู้จัดการในเรื่องนี้
ส่วนที่คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ ได้เชิญ “กัน จอมพลัง” เข้าไปให้ข้อมูล ร.อ.ธรรมมนัส กล่าวว่า เราอย่าไปยุ่งเรื่องของคนอื่นมากนักเลย แค่เรื่องของตัวเองก็ปวดหัวมากพออยู่แล้ว ขอไปแก้ปัญหาเรื่องของกีฬาดีกว่า อันนี้เพื่อประเทศชาติ
เมื่อถามว่า น้อยใจบ้างหรือไม่ที่โดนตรวจสอบมากกว่าคนอื่น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า น้อยใจทำไม ดีใจซะมากกว่า
