หุ้นไทยปิดลบ 0.99 จุด หลังประธานเฟดส่งสัญญาณไม่รีบลดดดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. กดตลาดหุ้นเอเชียรวมถึงตลาดหุ้นสหรัฐ ส่วนแนวโน้มพรุ่งนี้แกว่งไซด์เวย์ในกรอบ โดยให้ให้แนวต้าน 1,320 จุด แนวรับ 1,300 จุด
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,314.65 จุด ลดลง 0.99 จุด หรือ -0.08% ด้วย มูลค่าซื้อขาย 45,473.27 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวค่อนข้างผันผวน ปัจจัยกดดันมาจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่าจะไม่เร่งรีบลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้ แม้ว่าการประชุมเฟดเมื่อคืนจะลดดอกเบี้ยลงและเตรียมลดการทำมาตรการ QT ตามที่ตลาดคาดก็ตาม แต่ก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลเชิงจิตวิทยาต่อตลาดหุ้นที่คาดหวังเห็นการเดินหน้าลดดอกเบี้ยของเฟด ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียวันนี้ปรับลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้
นอกจากนี้ ยังมีแรงขาย DELTA ที่กดดันตลาดหุ้นไทย ขณะที่มีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มแบงก์หลังจาก KBANK ประกาศซื้อหุ้นคืน ทำให้ตลาดคาดหวังเห็นแบงก์ใหญ่รายอื่นๆ จะทำตาม รวมถึงหุ้นที่มีข่าวการควบรวมกิจการ คือ BANPU และ BPP ช่วยหนุนตลาดวันนี้ดีกว่าตลาดหุ้นภูมิภาค
สำหรับแนวโน้มพรุ่งนี้คาดแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ เกาะติดเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในการประชุมเอเปคต่อไป หลังจากที่มีการพบปะหารือในระดับผู้นำ ซึ่งประกาศลดอัตราภาษีนำเข้าจาก 20% เป็น 10% ทำให้เป็น Sentiment บวกต่อตลาดหุ้น แต่ยังต้องติดตามการหารือการค้าด้านอื่นๆ โดยให้แนวต้าน 1,320 จุด แนวรับ 1,300 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,606.77 ล้านบาท ปิดที่ 185.50 บาท เพิ่มขึ้น 6.50 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 3,079.95 ล้านบาท ปิดที่ 5.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,344.74 ล้านบาท ปิดที่ 220.00 บาท ลดลง 7.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,121.87 ล้านบาท ปิดที่ 158.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,871.10 ล้านบาท ปิดที่ 130.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท











