“ชินวรณ์” เชื่อสภายังเดินหน้าได้ แม้ “ธรรมนัส-20 ส.ส.” ถูกขับพ้นพปชร. วอนส.ส.ร่วมมือกันผลักดันงานสภา ถ้าไม่อยากถูกกล่าวหานักการเมืองทำเพื่อประโยชน์ตัวเอง
วันที่ 20 ม.ค. 65 ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึง กรณีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีมติขับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เลขาธิการพปชร.และส.ส.21 คน จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของเสียงส.ส. ฝั่งรัฐบาลในสภาหรือไม่ ว่า สถานการณ์ที่มีการขับ ส.ส. ออกไป หรือมีพรรคร่วมพรรคใดพรรคหนึ่งออกไปก็เคยมีมาแล้วในแต่ละยุค ซึ่งครั้งนี้ต้องให้ความเห็นใจพรรคที่มีสถานการณ์ทางการเมืองเช่นนี้
นายชินวรณ์ กล่าวต่อว่า ตนในฐานะรองประฐานวิปรัฐบาลยังมั่นใจว่า เรามี ส.ส.475 เสียงในขณะนี้ ซึ่งการประชุมสภาต้องใช้เสียงกึ่งหนึ่งคือ 238 เสียง โดยเสียงของรัฐบาลมีจำนวน 275 เสียง และจากที่มีการขับส.ส.ออกจากพรรค 21 คน เสียงของรัฐบาลก็จะคงเหลือ 254 เสียง ในเรื่องจำนวนตัวเลขยังทำให้การประชุมสภาดำเนินการต่อเนื่องได้ แต่ก็จะมีเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งเป็นเรื่องที่วิปของแต่ละพรรคจะต้องปรึกษาหารือ และหามาตรการในการดำเนินการประชุมให้มีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันตนยังเชื่อมั่นว่า เพื่อนส.ส.ที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองคงจะต้องร่วมกันคำนึงถึงการทำงานของสภาให้เดินหน้าต่อไปได้ ไม่เช่นนั้นก็จะถูกกล่าวหาว่านักการเมืองทำเพื่อประโยชน์ของตนเอง
นายชินวรณ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ การดำเนินการพิจารณากฎหมายสำคัญหรืออภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 152 สามารถดำเนินการได้ปกติ เพราะเป็นการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ เมื่อวานนี้ (19 ม.ค.) จะเห็นได้ว่าเมื่อมีกฎหมายสำคัญก็สามารถผ่านความเห็นชอบของสภาได้ ดังนั้น ตนจึงขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกัน เพื่อให้การประชุมสภาเป็นไปได้ตามปกติต่อไป
เมื่อถามว่า ตอนสภาล่ม ส.ส. 21 คน ก็ไม่ได้เข้าสภา วิปรัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรเพื่อให้การประชุมมีประสิทธ์ภาพ นายชิณวรณ์ กล่าวว่า แต่ละพรรคต้องร่วมมือกันต่อไป สถานการณ์ทางการเมืองที่เสียงรัฐบาลปริ่มน้ำก็ดี หรือบางครั้งประธานรัฐสภาก็เป็นอีกฝ่ายหนึ่งกับฝ่ายรัฐบาลก็เคยมีมาแล้ว ดังนั้น อยู่ที่การประสานงานในการทำงานร่วมกัน เพื่อจะดำเนินการต่อไปให้มีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนให้สภาเกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชน
“เมื่อวานนี้ ผมได้คุยกับประธานวิปรัฐบาลเบื้องต้นแล้วว่า เราได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีในการผ่านกฎหมายมาสองฉบับ แต่ในช่วงสุดท้ายมีการนับองค์ประชุมซึ่งเป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้าที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้คงจะมีการหารือของผู้บริหารพรรคแต่ละพรรคที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งวิปรัฐบาลจะต้องทำหน้าที่ในการดูแลมาตรการเพื่อรักษาองค์ประชุมต่อไป” นายชินวรณ์ กล่าว