หน้าแรกCOLUMNISTS“ยกเครื่องเพื่อไทย”..ไม่มีอะไรให้ร้องว้าว หุ่นเชิด“จุลพันธ์”รับไม้ต่อ-แค่ฝันกลางวัน

“ยกเครื่องเพื่อไทย”..ไม่มีอะไรให้ร้องว้าว หุ่นเชิด“จุลพันธ์”รับไม้ต่อ-แค่ฝันกลางวัน

- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

คำประกาศของ “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ ที่ลั่นกลางเวทีที่ประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งบอกว่า “ยังมีประชาชนจำนวนมากสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยจะทำให้เพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง”

รวมถึงการให้สัมภาษณ์สำทับด้วยว่า “มั่นใจว่า เพื่อไทยจะได้สส.ในการเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 200 ที่นั่ง” หลังก่อนหน้านี้ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” ผอ.เลือกตั้งเพื่อไทย ออกมาระบุไว้ก่อนหน้านี้

แน่นอนว่าในความเป็น “ผู้นำพรรค-หัวหน้าพรรค” ก็ต้องเล่นในบทบาท โชว์ความฮึกเหิม ปลุกเร้าความมั่นใจคนในพรรคเพื่อไทย แต่ของแบบนี้ คนการเมือง-คนเพื่อไทย รู้ดีว่า หัวหน้าพรรคเพื่อไทยแค่เล่นไปตามบท ว่าไปตามน้ำ

เพราะในความเป็นจริง สภาพ “เพื่อไทย” อย่างที่เห็น กับการเป็น “พรรคขาลง” เป็นพรรคฝ่ายค้าน ไม่มีอำนาจรัฐในมือ ทุกวันนี้ยังหาตัวแคนดิเดตนายกฯที่จะชูขึ้นมาแข่งกับ “พรรคประชาชน-พรรคภูมิใจไทย” หรือแม้แต่ “พรรคพระชาธิปัตย์” ที่มี “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรค ยังยาก

และถึงช่วงหาเสียงเลือกตั้งปีหน้าแม้ต่อให้ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่ถึงช่วงมีนาคมปี 2569 ก็ติดคุกครบหกเดือน ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ก็น่าจะได้รับการพักโทษ ออกจากเรือนจำกลางคลองเปรม มาช่วยวางแผนเลือกตั้ง แต่ “ทักษิณ” ก็คงอิดโรยไปเยอะ สภาพก็คงไม่เหมือนเก่า

จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์

ผนวกกับการคาดว่า “หัวจ่าย-สปอนเซอร์” ที่จะเข้ามาช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายในการหาเสียงให้กับเพื่อไทยในสภาพเป็นฝ่ายค้าน ก็คงอาจลดลงไปจากตอนเลือกตั้งปี 2566 เพราะ “สปอนเซอร์นอกพรรค” ก็ไม่มั่นใจว่า จ่ายไปแล้ว หลังเลือกตั้ง “เพื่อไทย” จะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่

เพราะมีแนวโน้มว่า “พรรคภูมิใจไทย” จะจับมือกับ “พรรคประชาชน” ตั้งรัฐบาล จน “พรรคเพื่อไทย” อาจกลายเป็นฝ่ายค้าน

อีกทั้งพวกนักเลือกตั้ง-สส.บางกลุ่มบางคนใน “พรรคเพื่อไทย” ก็ยังไม่ชัดเจนว่า จะอยู่กับพรรคยต่อไปหรือไม่ อาจจะยังมีเลือดไหลออกอีก แต่ตอนนี้ก็อยู่กับพรรคไปก่อน ทำให้ดูสภาพแล้ว ยังไงคนก็มองกันว่า “เพื่อไทย” น่าจะได้สส.มาเป็นอันดับ 3 ส่วนอันดับ 1 ก็สู้กันระหว่าง “พรรคภูมิใจไทย” กับ “พรรคประชาชน”

แต่ “พรรคประชาชน” จะได้เปรียบกว่า ตรงที่น่าจะได้สส.ปาร์ตี้ลิสต์จำนวนมากกว่า “พรรคภูมิใจไทย” หลายช่วงตัว ซึ่งก็หมายถึง “พรรคเพื่อไทย” อาจจะได้ สส.ลดลงจากตอนเลือกตั้งปี 2566 ที่ได้มา 141 คน

ถึงตอนนี้ แวดวงการเมืองก็ยังมองว่า เต็มที่ให้ “เพื่อไทย” ฟื้นได้จริง ๆ ก็น่าจะอยู่ที่ราวๆ 100-110 คน แต่หากไม่ฟื้น สถานการณ์ไม่ดีขึ้น เผลอ ๆ อาจกลายเป็นพรรคต่ำร้อย ได้สส.ไม่เกิน 100 คน ที่จะเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ “ทักษิณ” ตั้ง “พรรคไทยรักไทย” เมื่อตอนเลือกตั้งปี 2544

ด้วยเหตุนี้ คนจึงมองกันว่า ที่ “จุลพันธ์” บอกจะทำให้ “เพื่อไทย” ชนะเลือกตั้งและมั่นใจจะได้สส.เกิน 200 ที่นั่ง น่าจะฝันกลางวัน!

ยิ่งเมื่อดูจากรายชื่อกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยชุดใหม่ ที่โหมโรงสร้างกระแสว่า “ยกเครื่องเพื่อไทย” แต่ปรากฏว่า ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นชวนให้ร้อง “ว้าว” เพราะส่วนใหญ่ก็หน้าเดิม ๆ คนเดิม ๆ ไม่มีอะไรโดดเด่น เข้าทำนอง… ยกเครื่องบอกรีแบนด์พรรค แต่ของจริง แค่เปลี่ยนหัวหน้าพรรค นอกนั้นใช้อะไหล่เก่าหมด แถมบางคนก็เป็นอะไหล่เก่าหมดสภาพ

ส่วนเลขาธิการพรรค “ประเสริฐ จันทรวงทอง” อดีตรองนายกฯและอดีตรมว.ดิจิทัลฯ ก็เป็นการกลับมาเป็นเลขาธิการพรรคอีกรอบ หลังก่อนหน้านี้ ก็เคยเป็นมาแล้วตอนเลือกตั้งปี 2566 ที่ก็เป็นเลขาธิการพรรค ในยุคที่ “พรรคเพื่อไทย” แพ้เลือกตั้งให้กับ “พรรคประชาชน” ซึ่งจริง ๆ ต้องถือว่า “ผลงานสอบไม่ผ่าน”

แต่ที่ได้กลับมาก็เพราะ “สรวงศ์ เทียนทอง” อดีตรมว.ท่องเที่ยวฯ ที่หลุดจากเลขาธิการพรรค ไปเป็นรองหัวหน้าพรรค ดูแลพื้นที่ภาคกลาง ไปต่อไม่ไหว เพราะบารมีไม่ถึง คนในพรรคไม่ยอมรับ ผลงานไม่มีให้คนในเพื่อไทยหนุนต่อ เลยต้องเอา “ประเสริฐ” กลับมาเป็นเลขาธิการพรรคอีกรอบ

พร้อมกับ “ตั้งบางคน” เพื่อพยายามทำให้เห็นว่า มีบทบาทในพรรค เช่น “สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล” อดีตรมว.ท่องเที่ยวฯ อดีตรมว.วัฒนธรรม-อดีตรมว.อุดมศึกษาฯ ลูกสาวเสี่ยแป้งมันพันล้าน “วีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล” หัวหน้ากลุ่มโคราชเพื่อไทย โดยรอบนี้ก็ตั้งให้เป็น “รองหัวหน้าพรรค” กำกับดูแลภาคอีสานตอนล่าง เพื่อหวังให้ “กลุ่มแป้งมัน” อยู่กับพรรคต่อไป หลังก่อนหน้านี้ลือกันหนักว่า “กลุ่มแป้งมัน” จะย้ายออกจากเพื่อไทย

รวมไปถึงพยายามนำคนจากกลุ่มต่าง ๆ เข้ามาเป็นกรรมการบริหารพรรค เพื่อให้มีบทบาทในพรรคและซื้อใจคนในกลุ่มนั้นๆ เช่น “ปิยรัฐชย์ ติยะไพรัช” สส.เชียงราย ลูกสาว “ยงยุทธ ติยะไพรัช” อดีตประธานรัฐสภา-แกนนำเชียงรายเพื่อไทย ที่มีข่าวว่า มีปัญหาไม่ลงรอยกับ “เจ๊แดง-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์”

แต่ตอนนี้มีการเคลียร์ใจกันหลัง “ทักษิณ” เข้าคุก ทำให้ความสัมพันธ์ที่เคยตึง ๆ กัน เริ่มดีขึ้น และมีการรับปากกันว่า เลือกตั้งที่จะมีขึ้นจะให้ “ยงยุทธ” ดูแลพื้นที่เชียงรายเต็มตัว หลังที่ผ่านมา แตกกันหลายกลุ่ม

โดยภารกิจแรก ๆ ของ “จุลพันธ์” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็มีหลายเรื่องให้ต้องทำและสะสาง เช่น การพยายามเคลียร์กับกลุ่มต่าง ๆ ที่มีข่าวว่า อาจจะย้ายออกจากพรรคเพื่อไทย เพื่อขอให้อยู่กับพรรคต่อไป โดยเฉพาะ สส.อีสานหลายคน ที่เคยมีข่าวก่อนหน้านี้ เช่น “ไชยา พรหมมา” รองประธานสภาฯ และสส.หนองบัวลำภูหลายสมัย รวมถึงการต้องเร่งแสดงบทบาทการเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ทั้งในสภาฯและนอกสภาฯ ในฐานะฝ่ายค้าน

เพื่อพิสูจน์ให้ “คนในพรรคเพื่อไทย” และ “สังคม” ได้เห็นว่า “ตัวเองก็มีดี” ไม่ใช่ไก่กา ที่ใครจะมาปรามาสได้ เพราะหากพิสูจน์ตัวเองไม่ได้ บารมีในพรรคไม่เกิด “จุลพันธ์” ก็ไม่พ้นจะถูกมองว่า เป็นแค่ “หุ่นเชิด” เป็นหัวหน้าพรรคก็จริง แต่อำนาจ-บารมีน้อยกว่า หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย “แพทองธาร ชินวัตร”

……………….

คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง

โดย…“พระจันทร์เสี้ยว”

- Advertisement -spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
spot_img

Most Popular

spot_img
spot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_img