‘สินิตย์’ แนะเอกชนใช้สิทธิประโยชน์จากเอฟทีเอส่งออกเม็ดพลาสติกชีวภาพตีตลาดต่างประเทศ หลังไทยเป็นแชมป์อันดับ 1 ของอาเซียน อันดับ 3 ของโลก ตอบโจทย์เทรนด์รักษ์โลก
นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ติดตามสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศของไทย และการใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) โดยเฉพาะสินค้าเม็ดพลาสติกชีวภาพ หรือ Bioplastic ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่น่าจับตามองและมีแนวโน้มเติบโตสูง จึงนับเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการไทยที่จะขยายตลาดส่งออกเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคมีความต้องการผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาโมเดลเศรษฐกิจ BCG
สำหรับไทยมีศักยภาพสูงในการผลิตและส่งออกสินค้ากลุ่มพลาสติกชีวภาพ โดยเฉพาะเม็ดพลาสติกชนิดโพลีแลคติคแอซิด (Polylactic Acid) หรือ PLA ซึ่งเป็นเม็ดพลาสติกชีวภาพที่ทำมาจากข้าวโพด หรือมันสำปะหลัง หรืออ้อย ซึ่งนิยมใช้ในการผลิตสำหรับผลิตภัณฑ์หลายประเภท อาทิ กล่อง จาน ช้อนส้อม มีด แก้วน้ำที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง ผ้าอ้อม หน้ากากอนามัย และอุปกรณ์ภายในบ้าน
ซึ่งไทยมีความพร้อมเรื่องวัตถุดิบตั้งต้นที่นำไปใช้ในการผลิตเม็ดพลาสติกชีวภาพ อาทิ มันสำปะหลังและอ้อย ทั้งปริมาณและคุณภาพ จึงทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำลงและเพิ่มมูลค่าผลิตผลทางการเกษตรได้อีกด้วย
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า จากการติดตามสถิติการค้าระหว่างประเทศ ไทยครองแชมป์ผู้ส่งออกเม็ดพลาสติก PLA สูงเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน และเป็นอันดับที่ 3 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา และเนเธอร์แลนด์ ในปี 2564 ยอดการส่งออกเม็ดพลาสติก PLA ของไทย มีมูลค่าสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง 112.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 50% จากปี 2563
โดยตลาดส่งออกสำคัญและมีการขยายตัวสูง ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ จีน สหรัฐอเมริกา และเกาหลีใต้ ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศผู้ส่งออกอื่นๆ ไทยยังมีอัตราการขยายตัวสูง
นอกจากนี้ ความตกลงการค้าเสรี FTA ที่ไทยมีกับ 18 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ฮ่องกง ชิลี และเปรู ทุกประเทศได้ยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าเม็ดพลาสติก PLA ให้ไทยทั้งหมดแล้ว ทำให้สินค้าไทยได้เปรียบด้านราคา สำหรับตลาดคู่ FTA ที่น่าจับตามองและมีการส่งออกเม็ดพลาสติก PLA เติบโตได้ดี คือ จีน และเกาหลีใต้
โดยสินค้าไทยครองส่วนแบ่งตลาดสูงเป็นอันดับ 1 ในทั้งสองประเทศ ทั้งนี้ ในปี 2564 ไทยส่งออกเม็ดพลาสติก PLA ไปจีน มูลค่า 24.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 35.7% จากปี 2563 ครองส่วนแบ่งตลาดในจีนสูงถึง 57% และส่งออกเม็ดพลาสติก PLA ไปเกาหลีใต้ มูลค่า 11.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 23.0% จากปี 2563 ครองส่วนแบ่งตลาดในเกาหลีใต้สูงถึง 55%
ในปี 2564 ไทยส่งออกเม็ดพลาสติกชีวภาพ PLA ไปประเทศคู่ FTA มูลค่ารวม 48.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 20.5% การส่งออกไปกลุ่มประเทศคู่ FTA คิดเป็นสัดส่วน 35.8% ตลาดส่งออกหลักในกลุ่มประเทศคู่ FTA ได้แก่ จีน สัดส่วน 21.7% ของการส่งออกทั้งหมด และเกาหลีใต้ สัดส่วน 10.4% ของการส่งออกทั้งหมด