นายกรัฐมนตรี โทรฯสายตรงให้กำลังใจคอลเซ็นเตอร์ หลับทำงานกันอย่างหนัก ขณะที่ศบค.ปรับมาตรการเดินทางเข้าไทย ให้เป็นเดย์ 0-PCR เดย์5-ATK
เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 65 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผอ.ศบค. เป็นประธาน ช่วงหนึ่ง ว่า สำหรับเรื่องการปรับมาตรการการป้องกันโรคสำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักร ซึ่งทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้นำเสนอปรับเปลี่ยนเล็กน้อย โดยจากเดิมที่ต้องตรวจ RT-PCR 2 ครั้ง ในเดย์0 และเดย์5 นั้น ปรับเป็นตรวจ RT-PCR ในเดย์ 0 ส่วนเดย์ 5 ให้ตรวจ ATK ขอให้ติดตั้งแอพพลิเคชั่นหมอชนะ เพื่อส่งผลการตรวจ ส่วนด่านช่องทางบก เช่น ที่จังหวัดหนองคาย อุดรธานี และสงขลา พยายามจะเปิดด่านทางบกเพื่อนำร่องให้เกิดกิจกรรมทางการค้า ส่วนเรื่องประกันภัยสุขภาพที่จากเดิม 50,000 เหรียญสหรัฐ ขอปรับเป็นไม่น้อยกว่า 20,000 เหรียญสหรัฐ โดย ผอ.ศบค. มอบเลขาธิการสมช. ไปดูในรายละเอียด เนื่องจากมีบางบุคคลมาทำการค้าเพียงวันเดียว หากต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยสูงมากอย่างนี้อาจจะไม่คุ้ม รวมถึงกีฬา เรือยอร์ช และเรือสำราญนั้น จะต้องผ่านระบบนี้ในรูปแบบที่ใกล้เคียงกันด้วย ซึ่งทาง ศปก.กก. จะได้มีการประชาสัมพันธ์ต่อไป
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีฝากขอบคุณ ผู้ที่ทำงานหนักมากในขณะนี้ คือคอลเซ็นเตอร์ นายกรัฐมนตรีได้กรุณาโทรศัพท์ไปเองจึงได้ทราบว่าทำงานกันอย่างหนักและให้กำลังใจกับทุกคน ขอบคุณแม้กระทั่งผู้ที่ทำงานในภาคประชาสังคมที่ได้ไปช่วย กับทีมงานของภาครัฐที่ดูแลผู้ป่วย และผู้ที่รอคอยการดูแล ที่อยู่ตามบ้าน นายกรัฐมนตรีฝากขอบคุณผู้ที่มีส่วนร่วมมือกันทุกคนเพราะบ้านของบางคนไม่เหมาะสมที่จะใช้เป็นที่กักตัว นายกฯจึงขอให้ภาครัฐร่วมมือกัน กับทางองค์กรทั้งหลายให้ช่วยกันดูแล ซึ่ง นายกฯรับทราบทุกเรื่อง และพยายามอยากจะให้ทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะช่วยกันได้ และให้ติดตามผู้ที่มีการติดเชื้อตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งให้หายดี ให้ทำหน้าที่ดูแลการเจ็บป่วยครั้งนี้ให้ทุกคนได้มีความพึงพอใจ อย่างไรก็ตามเรื่องความพึงพอใจนั้น เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ขณะที่คนไข้มีเป็นจำนวนมากอย่างนี้ อาจจะต้องเรียงลำดับความสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องสายด่วนนั้น นายกฯให้ความสำคัญสูงมากเพื่อที่จะรู้ว่าความทุกข์ร้อนของประชาชนในช่วงขณะนี้ นายกฯจึงได้ฝากผู้บริหารทั้งหลายให้ช่วยกัน
ส่วน เรื่องของสถานประกอบการในขณะนี้ที่เปิดแล้ว และส่วนหนึ่งมีการติดเชื้อเนื่องจากมีการผ่อนคลาย ขอฝากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้มีมาตรการที่จะเข้าไปดูแล ต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างดี ควบคุม ติดตาม สำคัญที่สุดคือขอให้ประชาชนมีความรับผิดชอบร่วมกันให้มากๆ ดังนั้น การผ่อนคลาย กิจการเปิดได้ แต่ผู้ป่วยมากขึ้น ภาครัฐก็ต้องเข้ามาดูแล สิ่งต่างๆจะต้องวางสมดุลให้เกิดขึ้น เพื่อที่จะดำเนินกิจการต่างๆเหล่านี้ต่อไป