“สุริยะ” ขานรับนโยบายรัฐเดินหน้าสนับสนุนไทยเป็นฐานผลิต EV และชิ้นส่วนสำคัญของโลก ด้านบอร์ด สมอ. ไฟเขียวเพิ่มอีก 19 มาตรฐานยานยนต์ไฟฟ้า คาดประกาศใช้ภายในปีนี้
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้กำหนดแนวทางการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนที่สำคัญของโลก ซึ่งกระทรวง ฯ ได้ขานรับนโยบายดังกล่าว ด้วยการจัดทำมาตรฐานยานยนต์ไฟฟ้าออกมาอย่างต่อเนื่อง และมีการประกาศใช้แล้วจำนวน 116 มาตรฐาน
รวมทั้งส่งเสริมให้มีโครงสร้างพื้นฐานด้านการตรวจสอบรับรองที่มีความพร้อม เช่น ศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ (ATTRIC) ที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลด้าน EV ให้เกิดการผลิตและการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ ให้เป็นไปตามเป้าหมายการผลิตและการใช้ยานยนต์ไร้มลพิษ หรือ Zero Emission Vehicle : ZEV ลดการใช้น้ำมัน ลดการปล่อยไอเสีย รวมทั้งลดฝุ่นจิ๋ว PM 2.5 ด้วย
นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวว่า ในปีนี้สมอ. มีแผนจัดทำมาตรฐานอีกจำนวน 19 มาตรฐาน ได้แก่ มาตรฐานเรือไฟฟ้า ชิ้นส่วนสำหรับดัดแปลงรถจักรยานยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ระบบจอดอัตโนมัติของรถยนต์ และระบบแบตเตอรี่ของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น โดยจะเร่งดำเนินการออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลด้านอีวีให้เป็นรูปธรรม
สำหรับมาตรฐานยานยนต์ไฟฟ้าที่จัดทำแล้วเสร็จและผ่านความเห็นชอบจาก กมอ. เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จำนวน 19 มาตรฐาน ได้แก่ มาตรฐานจักรยานยนต์ไฟฟ้า มาตรฐานระบบแบตเตอรี่ในรถยนต์ไฟฟ้า มาตรฐานระบบการสื่อสารระหว่างรถยนต์ไฟฟ้ากับโครงข่ายไฟฟ้า มาตรฐานระบบขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้า มาตรฐานระบบเบรกของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า และมาตรฐานวิธีทดสอบที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น นั้น
อย่างไรก็ตาม การจัดทำมาตรการดังกล่าว อ้างอิงมาจากมาตรฐานระหว่างประเทศของ ISO ซึ่งมีข้อกำหนดครอบคลุมทั้งด้านความปลอดภัย ด้านมลพิษ ด้านเสียง และด้านการใช้พลังงาน รวมทั้งยังเป็นมาตรฐานที่รองรับเทคโนโลยีวีทูจี (Vehicle to Grid-V2G) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สามารถเก็บพลังงานไฟฟ้าสำรองไว้ในแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า มีศักยภาพในการควบคุมกระแสไฟฟ้าให้ไหลเข้าออกจากแบตเตอรี่ได้อย่างอิสระ จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้มากขึ้น
นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้เห็นชอบมาตรฐานอื่น ๆ อีก 37 มาตรฐาน รวมเป็น 56 มาตรฐาน เช่น มาตรฐานระบบตรวจจับการบุกรุกและการโจรกรรมในอาคาร มาตรฐานตัวเป่าผม เครื่องขยายสัญญาณ ไมโครโฟน หูฟังคาดศีรษะและหูฟังใส่หู ถ้วยกระดาษสำหรับเครื่องดื่ม กระดาษพิมพ์และเขียน และผงสีอัลทรามารีน เป็นต้น รวมทั้ง ได้เห็นชอบให้ เตาอบไมโครเวฟ และเหล็กกล้าคาร์บอนทรงแบนรีดร้อน สำหรับงานโครงสร้างเครื่องจักรกล เป็นสินค้าควบคุมอีกด้วย