คณะก้าวหน้าจวกใช้เงินภาษีประชาชนด้อยค่าผู้ชุมนุม ตั้งทีมงานกว่า 5 หมื่นบัญชีปั่นแท็กในทวิต แฉมีนักธุรกิจอยู่เบื้องหลังปฏิบัติข้อมูลข่าวสาร ลั่นเราไม่หยุดจนกว่ากองทัพจะเป็น ปชต.
เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่อาคารไทยซัมมิท น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า แถลงข่าว “เปิดวงจรอุบาทว์ไอโอ ผู้มูฟออนเป็นวงกลม” โดยระบุว่า เวลานี้มีกระบวนการถักทอความจริงใจด้วยความจงใจชองกองทัพผ่านแอพพลิเคชั่นทวิตเตอร์บรอดแคสและฟรีเมสเซนเจอร์ เพื่อปั่นแท็กขึ้นมาในทวิตเตอร์ โดยกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ มีถึง 17,562 บัญชี รวมทั้งหมดแล้วมีมากว่า 5 หมื่นบัญชี เพื่อถักทอความจริงขึ้นมา ระบบปฏิบัติการการเผยแพร่นอกจากจะแบ่งเป็นฝ่ายขาวหรือฝ่ายดำแล้วยังมีฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายปฏิบัติการเพื่อผลิตเนื้อหา
น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ฝ่ายปฏิบัติการ ทำหน้าที่กดหัวใจและติดตาม และ ทำหน้าที่ปล่อยข้อความ หรือ Rich Content ติดแฮชแท็กครบค้วนและมีภาพประกอบ ส่วนฝ่ายสนับสนุน จะมีกลุ่มนักเล่าเรื่องเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้กับกองทัพและด้อยค่าฝ่ายตรงข้ามและประชาชน มีเจ้าหน้าที่คลังข้อมูลจะหาข้อมูลเพื่อส่งให้กับฝ่ายปฏิบัติการ ในบรรดา 17,562 บัญชี
พบว่าส่วนหนึ่งประมาณ 600 รายชื่อ มียศทหารและตำแหน่งและหน่วยงานชัดเจน กลุ่มบัญชีเหล่านี้เพิ่งเปิดบัญชีทวิตเตอร์เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา มีการโพสต์ข้อความซ้ำเหมือนกันเป็นจำนวนมากในเวลาเดียวกัน บางครั้งพบการโพสต์ข้อความไม่เป็นธรรมชาติ และบางคนเปิดหน้าเป็นทหารชัดเจน เช่น คนใช้ชื่อ “เฮียตือหนามเป้า” ซึ่งพบว่าเป็นทหารยศนายพันคนหนึ่ง และพบว่ามีการโพสต์ข้อความ ภาพ และแฮชแท็กเดียวกัน ประมาณมากกว่า 1,000 ครั้ง
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีบุคคลที่เป็นนักธุรกิจอยู่เบื้องหลังแอพพลิเคชั่นที่ใช้ในการปฏิบัติข้อมูลข่าวสารด้วย ซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเข้าไปอบรมเป็นวิทยากรจิตอาสาและอบรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ที่สำคัญยังเป็นคนที่เข้านอกออกในกองทัพอีกด้วย นักธุรกิจคนนี้เป็นเจ้าของบริษัท 20 แห่ง พบว่ามีหลายบริษัทขาดทุนสะสมและที่สำคัญเคยถูกก.ล.ต.เตือนว่าห้ามให้ขายหุ้นกู้ให้กับประชาชน แต่ฝ่าฝืนคำสั่งจนต้องถูกก.ล.ต.ปรับ
การที่กองทัพบกบอกว่าเนื้อหาที่ลงเป็นเชิงบวกเพื่อสร้างภาพลักษณ์ภารกิจของกองทัพบก และไม่ดำเนินการเป็นที่เสื่อมเสียแก่ใครนั้นพบว่าเกิดพฤติกรรมด้อยค่าการชุมนุมเป็นจำนวนมาก และมีการรีทวิตข้อความใส่ร้ายคณะก้าวหน้า โดยทหารถูกบังคับให้เผยแพร่ความเกลียดชังโดยภาษีของประชาชน และทำการรบกับประชาชนในโลกออนไลน์
“หากยังไม่เชื่อว่ากองทัพทำไอโอ ขอให้ย้อนกลับไปดูข่าวก่อนหน้านี้ที่บริษัททวิตเตอร์ระบุว่ามีการระงับบัญชีไอโอ 926 บัญชีที่โยงกับกองทัพบก และระงับบัญชีทวิตเตอร์ชื่อโรงเรียนจิตอาสาพระราชทาน เงินที่แสนล้านบาทและเวลาที่เสียให้กับกองทัพที่มารบกับประชาชน เราพยายามอยากหยุดพฤติกรรมเหล่านี้ด้วยการนำความจริงออกมา
หลายครั้งที่เราถามผู้นำเหล่าทัพในคณะกรรมาธิการ แต่ได้รับการปฏิเสธว่ากองทัพไม่ได้ทำไอโอ ถ้าท่านยังไม่หยุด เราก็จะไม่หยุดจนกว่ากองทัพจะเป็นประชาธิปไตยที่รบกับศัตรูของประชาชน ภายในเวลา 1 ปีเราต้องพูดเรื่องนี้ถึง 2 ครั้ง ขอร้องว่าอย่าให้มีครั้งต่อไปที่ต้องมาเปิดโปงว่ากองทัพทำผิดซ้ำซาก ไม่อยากใช้ทรัพยากรของเราติดตามเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์เช่นนี้ หวังว่าปีหน้าจะไม่เจอกัน แต่ถ้ายังไม่หยุดก็ยังจะเจอกัน” น.ส.พรรณิการ์ กล่าว