โทษที..!! ไม่อยากให้ดัดจริตกันไปมากกว่านี้ แต่เป็นข้อเสนอสำหรับการปฏิบัติต่อเด็กทั้ง 2 กลุ่มให้ได้รับ สิทธิและเสรีภาพ อย่างเท่าเทียมกัน
เด็กกลุ่มแรก ประมาณ 23 โรงเรียน รณรงค์ประเดิมวันเปิดเทอม “1 ธันวาบอกลาเครื่องแบบ จะแต่งอะไรมันก็เรื่องของกู” ขณะที่ เด็กอีกกลุ่มใหญ่ ยังแต่งเครื่องแบบตามกฎระเบียบของโรงเรียนเหมือนเดิม
แต่พอไปนั่งเรียนรวมกันในห้อง ภาพที่เห็นจะคล้ายกับเสื่อโดนหมาแทะ แหว่ง ๆ เว้า ๆ ไม่เนียนตาเหมือนแต่ก่อน
ด้าน รมว.ศึกษาธิการ คงเข็ดจากคราวก่อน โดนเด็กหลอกไปถอนหงอกหน้ากระทรวง ในรอบนี้จึงเย็บปากเงียบ ทำให้ผู้บริหารโรงเรียนพากันทำตามคือ ปล่อยไปตามยถากรรม
จึงเสี่ยงจะเกิดสถานการณ์เด็กนักเรียน 2 กลุ่ม เริ่มเปรียบเทียบซึ่งกันและกัน ฝ่ายที่แต่งเครื่องแบบอาจไปแซว ฝ่ายที่ไม่ต่างเครื่องแบบ หรือ..?? ฝ่ายที่ไม่แต่งเครื่องแบบเยาะเย้ยฝ่ายที่แต่งเครื่องแบบ
แทนที่สังคมไทยจะกัดกันเฉพาะ “ผู้ใหญ่หัวหงอก” ก็จะขัดแย้งไปถึงระดับ “เด็กหัวหยอย”
รมว.ศึกษาธิการ ควรใช้สติปัญญาเพื่อรักษากฎระเบียบไปพร้อม ๆ เปิดเสรีภาพด้านการแต่งกาย อันจะส่งผลให้แต่ละโรงเรียนเกิดเอกภาพ ไม่แตกแยกขัดแย้ง
นั่นคือ ให้แยกเด็กเป็น 2 กลุ่ม ใครอยากแต่งกายตามระเบียบ ก็ให้อยู่โรงเรียนเดิม ส่วนใครไม่อยากแต่งชุดนักเรียน ก็ให้ไปเรียน กศน. เพราะเป็นหลักสูตรที่ไม่บังคับแต่งชุดนักเรียน
ฉะนั้นถ้ามึงไม่อยากแต่ง ก็ให้ไปเรียน กศน.โน่น
………………………………..
คอลัมน์ : กวนคน กวนข่าว
โดย “เล่ากวนโอ๊ย”
credit photo : เพจนักเรียนเลว