หน้าแรกNEWSอนุทินแจงปมอดีตรมช.คลังถูกครหา ย้ำให้ลาออกเพื่อความโปร่งใส–ยืนยันลงนามสันติภาพไม่กระทบอธิปไตย

อนุทินแจงปมอดีตรมช.คลังถูกครหา ย้ำให้ลาออกเพื่อความโปร่งใส–ยืนยันลงนามสันติภาพไม่กระทบอธิปไตย

- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

อนุทินชี้อดีตรมช.คลังลาออกเพื่อสปิริต ย้ำไม่กลั่นแกล้งทางการเมือง – ยันเดินหน้าสันติภาพใต้ ไม่กระทบอธิปไตยไทย

เมื่อเวลา 09.10 น. วันที่ 5 พ.ย.68 ที่พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แสดงวิสัยทัศน์ในงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2025 ภายใต้หัวข้อ “Thailand’s Next Frontier: A National Economic Vision – วิสัยทัศน์ประเทศไทยในโลกใหม่”

ระหว่างการสัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรีตอบคำถามถึงกระแสข่าวอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการสแกม ว่า ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานหรือหน่วยงานใดทั้งในและต่างประเทศดำเนินคดีต่อบุคคลดังกล่าว เพียงแต่ถูก “ครหา” ในสังคม ซึ่งตนเองเป็นผู้แจ้งให้เจ้าตัวลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบและรักษาภาพลักษณ์ของรัฐบาล

“เมื่อเกิดกระแสครหาในขณะที่ท่านอยู่ในกระทรวงซึ่งมีบทบาทสำคัญในการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ผมจึงขอให้ท่านลาออก ท่านก็ให้ความร่วมมืออย่างดี เรื่องนี้ต้องให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินไป หากไม่ผิดก็คือไม่ผิด” นายอนุทินกล่าว

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า รัฐบาลของตนให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมายโดยยึดพฤติกรรมในคดีเป็นหลัก ไม่ใช่ความชอบหรือความเกลียดส่วนตัว พร้อมยืนยันว่าจะไม่ใช้กลไกรัฐเป็นเครื่องมือทางการเมืองเหมือนในอดีต เพราะสิ่งนั้นสร้างความเสียหายแก่ประเทศและประชาชน “นักการเมืองต้องไม่ใช้รัฐกลั่นแกล้งกัน ประเทศต้องเดินไปข้างหน้า ไม่ใช่ย้อนกลับไปติดอยู่ในกรงกรรมทางการเมือง” นายอนุทินกล่าว

นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า ในฐานะที่ดำรงตำแหน่งทั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตนมีอำนาจในการบริหารสูงสุดในรอบหลายสิบปี แต่จะไม่ใช้อำนาจนั้นเพื่อล้างแค้นใคร หากแต่จะใช้เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้ประเทศ

นอกจากนี้ นายอนุทินยังกล่าวถึงการเดินทางไปลงนามบันทึกสันติภาพที่ประเทศมาเลเซียว่า จุดประสงค์หลักคือ “หยุดสงคราม” และสร้างความสงบสุขให้แก่ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ ยืนยันว่าการลงนามครั้งนี้ไม่กระทบต่ออธิปไตยหรือดินแดนของไทย

“ผมไปเพื่อให้โลกเห็นว่า ประเทศไทยจะไม่ยอมให้ใครรุกรานหรือแทรกแซง เรามีเอกลักษณ์ มีเอกราช และความมั่นคงในตัวเอง ข้อตกลงทุกอย่างมีการเขียนชัดเจน ไม่มีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ใด ๆ นอกจากสันติสุขของประชาชน” นายกรัฐมนตรีกล่าว

พร้อมย้ำว่า ไทยยังคงรักษาความสัมพันธ์อันดีกับทุกประเทศเพื่อนบ้านบนพื้นฐานของความเท่าเทียม ไม่เป็นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และมุ่งส่งเสริมการค้าและความร่วมมือในภูมิภาค เพื่อความมั่นคงและการเติบโตของประเทศในระยะยาว

- Advertisement -spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES

HIGHLIGHT

- Advertisment -spot_img
spot_img

Most Popular

- Advertisement -spot_img
spot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img