”วัชระ”ร้องหาเหตุผลทำไมอัยการไม่ฟ้อง “สกุลธร” น้องชายธนาธร จ่าย 20 ล้านให้จนท.สำนักทรัพย์สินฯ เดินหน้าลุยร้องสำนักงานตำรวจฯ
เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมายื่นหนังสือถึง นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด เรื่องขอให้อัยการสูงสุดชี้แจงเหตุผลที่สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการการทุจริต 4 ไม่ฟ้อง นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร บริษัทเรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กรณีให้เงินเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (ชื่อเดิม) 20 ล้านบาท แลกกับการได้สิทธิเช่าที่ดินระยะยาว บริเวณองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ย่านชิดลม มูลค่า 500 ล้านบาท ซึ่งเป็นทรัพย์สินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์โดยไม่ผ่านการประมูลแข่งขันตามขั้นตอนปกติ
นายวัชระ กล่าวว่า คดีนี้ศาลอาญาคดีทุจริตฯ มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2562 หมายเลขดำที่ อท76/2562 คดีหมายเลขแดงที่ อท228/2562 พร้อมสำเนาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ให้ลงโทษ นายประสิทธิ์ อภัยพลชาญ เจ้าหน้าที่ฝ่ายโครงการพิเศษสำนักงานทรัพย์สินฯ และนายสุรกิจ ตั้งวิทูวนิช นายหน้า เป็นจำเลยที่ 1-2 ร่วมกันปลอมเอกสารราชการ และใช้เอกสารราชการปลอม ทำผิดตาม ป.อาญา มาตรา 83, 143, 264, 265, 268 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/4 จำคุกคนละ 6 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือคนละ 3 ปี
‘’ ด้วยเหตุตามคำพิพากษานี้ เหตุใดอัยการสำนักงานคดีพิเศษจึงไม่ฟ้องนายสกุลธร เพราะเกรงว่าอาจจะซ้ำรอยคดีบอส กระทิงแดง จึงขอให้อัยการสูงสุดสอบสวนอัยการเจ้าของคดีว่าเหตุใดจึงไม่ฟ้องนายสกุลธร และเมื่อมีคำพิพากษาดังนี้สำนักงานอัยการสูงสุดจะดำเนินการทางกฎหมายต่อนายสกุลธรหรือไม่อย่างไร’’ นายวัชระ กล่าว
นายวัชระ เปิดเผยด้วยว่า ขณะเกิดเหตุการกระทำผิดตามคำพิพากษานี้ คือ มี.ค. 2560 – 18 ก.ย. 2560 บริษัมเรียลแอทเสทฯ ได้แสดงบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2560 ลำดับที่ 1 นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ (มารดาของนายธนาธรและนายสกุลธร) ลำดับที่ 2 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (ประธานคณะก้าวหน้า บุตรชายคนโตของนางสมพรและพี่ชายของนายสกุลธร) และลำดับที่ 6 นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ
ผู้สื่อข่าวถามถึงคดีนี้ตำรวจมีการทำและส่งสำนวนในส่วนของนายสกุลธรมาที่อัยการหรือไม่ นายวัชระระบุว่า จะไปยื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สอบสวนตำรวจเจ้าของสำนวนต่อไป หากไม่ดำเนินการภายในวันจันทร์ที่7 ธ.ค.จะไปยื่นให้ ผบ.ตร. ภายหลัง ส่วนเหตุที่มายื่นถึงอัยการก่อนนั้น เพราะอัยการเป็นทนายแผ่นดินต้องรักษาประโยชน์แผ่นดิน