ไม่เพียงแต่การเลือกตั้ง “ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก)” ที่ต้องจับตามองแต่สมรภูมิชิงเก้าอี้ “นายกเมืองพัทยา” และ “สมาชิกสภาเมืองพัทยา” 24 เก้าอี้ ที่จะเลือกตั้งวันเดียวกันกับที่ กทม. คือวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค.65 ก็ต้องติดตามเช่นกันเพราะผลการเลือกตั้ง ที่เมืองพัทยา แหล่งท่องเที่ยวซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกของประเทศไทยรอบนี้
หากสุดท้าย “บ้านใหญ่-ตระกูลคุณปลื้ม” พลาดท่า “เสียหน้า” ผลเลือกตั้งออกมาไม่ได้ตามเป้า ทั้งนายกเมืองพัทยาที่ส่ง “ปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์” อดีตที่ปรึกษา รมว.วัฒนธรรม และอดีตส.ส.ชลบุรี ที่ถือเป็นคนในบ้านใหญ่ ตระกูล “คุณปลื้ม” ซึ่งลงแข่งขันชิงนายกเมืองพัทยาในนาม “กลุ่มเรารักพัทยา” พร้อมด้วยผู้สมัครสมาชิกสภาเมืองพัทยา ที่ทั้งหมดคุมทีมโดย “สนธยา คุณปลื้ม” อดีตนายกเมืองพัทยา พี่ใหญ่ตระกูล “คุณปลื้ม”
หากสุดท้าย “ปรเมศวร์” แพ้เลือกตั้ง “กลุ่มบ้านใหญ่” รับรองมีสะเทือนแน่
โดยหากถามว่า มีโอกาสหรือไม่ที่ กลุ่มบ้านใหญ่ตระกูล “คุณปลื้ม” จะแพ้เลือกตั้ง ก็ต้องยอมรับว่า มันก็อาจเกิดขึ้นได้ เพราะ “คู่แข่ง” แต่ละคนในการชิงนายกเมืองพัทยา ล้วนไม่ธรรมดาเช่น “กิตติศักดิ์ นิลวัฒนโฒชัย” หรือ “บ๊อบ” แกนนำกลุ่มพัทยาฟิวเจอร์ ที่ก็คือกลุ่มการเมืองในปีก คณะก้าวหน้าของ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” และยังมี “ต่อศักดิ์ แตงฮ่อ” ผู้สมัครอิสระ อดีตรองอธิบดีกรมการปกครอง อดีตนายอำเภอบางละมุง รวมถึง “สินไชย วัฒนศาสตร์สาธร” อดีตนายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา 2 สมัย น้องชายของ “นิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร” อดีตนายกเมืองพัทยา…นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม คู่แข่งขันที่คาดว่า จะสร้างความหนักใจให้กับกลุ่มบานใหญ่ “คุณปลื้ม” ก็คือ “กิตติศักดิ์ นิลวัฒนโฒชัย” จากคณะก้าวหน้านั่นเอง
เพราะหากสุดท้าย ถ้าคนของบ้านใหญ่ตระกูล “คุณปลื้ม” ร่วงหมด หรือทำไม่ได้ตามเป้า เช่น ไม่ได้ที่นั่งในสภาเมืองพัทยา “เกินกึ่งหนึ่ง” ยังไงเสียในทางการเมือง ย่อมถูกมองไปว่า บารมีบ้านใหญ่ตระกูล “คุณปลื้ม” ในพื้นที่ชลบุรี กำลังเข้าสู่ช่วง “ขาลง” แน่นอน
ยิ่งเลือกตั้งรอบนี้ ถือว่า สนามเลือกตั้งนายกพัทยา ค่อนข้างดุเดือด เข้มข้นกว่าทุกครั้ง กับสภาพการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป หลังการเติบโตของสังคมโซเชียลมีเดีย และการที่หลายพื้นที่ มีคนรุ่นใหม่ๆ ที่มีการศึกษา มีการตื่นตัวทางการเมืองมากขึ้น ขณะเดียวกัน แม้แต่กับคนรุ่นเดิมๆ ในหลายพื้นที่ จะพบว่า เริ่มมีคนจำนวนไม่น้อย ที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง อยากเห็นการเมืองมีการแข่งขันในพื้นที่ ไม่ใช่การเมืองแบบบ้านใหญ่เหมือนในอดีต ซึ่งที่ พัทยา-ชลบุรี ก็มีคนในพื้นที่จำนวนไม่น้อย รู้สึกแบบนี้เช่นกัน คืออยากเห็นการเปลี่ยนแปลง ไม่ชอบโครงข่ายการเมืองแบบบ้านใหญ่
ซึ่งความรู้สึกลักษะดังกล่าวของคนชลบุรี “กลุ่มคุณปลื้ม” รู้ซึ้งทางการเมืองเป็นอย่างดี เพราะเคยมีบทเรียนให้ประจักษ์มาแล้ว กับผลการเลือกตั้งส.ส.เมื่อปี 2562 ที่ปรากฏว่า ลูกทีมของบ้านใหญ่คุณปลื้ม ที่ลงในนามพรรคพลังประชารัฐ สอบตกร่วงหมด
แม้แต่ขนาด “อิทธิพล คุณปลื้ม” รมว.วัฒนธรรม น้องชายของ “สนธยา” ก็ยังสอบตกมาแล้ว เช่นเดียวกับลูกทีมคนอื่นในซุ้มบ้านใหญ่ ที่ไม่เกี่ยวกับกลุ่มของ “เสี่ยเฮ้ง-สุชาติ ชมกลิ่น” คือ “พันธุ์ศักดิ์ เกตุวัตถา” รวมถึงตัว “ปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์” อดีตส.ส.ชลบุรี ที่ลงนายกเมืองพัทยารอบนี้ ก็สอบตกตอนเลือกตั้งปี 2562 เพราะแพ้ให้กับ “กระแสอนาคตใหม่-กระแสธนาธร” ในพื้นที่ชลบุรี แบบล็อกถล่ม
ก่อนที่ “บ้านใหญ่-คุณปลื้ม” จะมาล้างอายได้สำเร็จ เมื่อ “วิทยา คุณปลื้ม” น้องชายอีกคนของ “สนธยา” เอาชนะในศึกเลือกตั้ง นายกฯอบจ.ชลบุรี เมื่อธันวาคม 2563 ได้สำเร็จ โดยเอาชนะ “พลอยลภัสร์ สิงห์โตทอง” จากกลุ่ม Change Chonburi ที่ก็คือกลุ่มคณะก้าวหน้าของ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ไปแบบขาดลอย ชนิดตบหน้า ธนาธร แบบจังๆ หลังในช่วงหาเสียง “ธนาธร” ลงมาช่วยหาเสียงอย่างเต็มที่ และชูนโยบาย “ตัดสินอนาคตชลบุรี : เลือกการเมืองเก่าหรือการเมืองใหม่ เลือกประชาธิปไตยหรือสนับสนุนอำนาจเดิม”
ส่วนการเลือกตั้ง นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแสนสุข จ.ชลบุรี เมื่อเดือนมีนาคม 2564 ที่ “ณรงค์ชัย คุณปลื้ม” น้องชายของ “สนธยา” ชนะเลือกตั้งได้กลับเข้าไปเป็นนายกเทศมนตรีฯอีกรอบ ไม่ถือว่าเป็นการแข่งขันกับกลุ่มคณะก้าวหน้าแต่อย่างใด เพราะคู่แข่งเป็นพวก “คุณปลื้ม” ด้วยกันเองคือ “สมชาติ คุณปลื้ม” น้องชายของ “สมชาย คุณปลื้ม” หรือ “กำนันเป๊าะ” ที่สุดท้าย “หลาน” เอาชนะ “อา” ตัวเองได้แบบ….ไม่เหนือความคาดหมาย
จากสภาพการแข่งขันการเลือกตั้งในพื้นที่ชลบุรีดังกล่าว ทั้งสนามใหญ่เลือกตั้งส.ส.ปี 2562 และนายกฯอบจ.ชลบุรี ปี 2563 ที่กลุ่มคุณปลื้ม มีแพ้-ชนะ สลับกันไป ท่ามกลางการวิเคราะห์การเมืองจากคนในพื้นที่ว่า หากเป็นการเมืองท้องถิ่น ประชาชนจะผูกพันกับตัวผู้สมัคร มากกว่าการเลือกตั้งส.ส.ที่มีเรื่องของกระแสพรรค เข้ามาเกี่ยวข้อง มีการมองกันว่า สนามเลือกตั้งท้องถิ่น “บ้านใหญ่-คุณปลื้ม” น่าจะได้เปรียบ เพราะมีฐานเสียงแน่นหนา และคนในบ้านใหญ่ทำการเมืองในพื้นที่มาตลอด มีความผูกพันกับประชาชนแบบใจถึงใจ เห็นได้จากการเลือกตั้งนายกฯอบจ.และนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแสนสุข ที่คนของบ้านใหญ่ “คุณปลื้ม” ชนะเลือกตั้งแบบลอยลำ
ในช่วงโค้งแรกของการแข่งขัน ชิงเก้าอี้นายกฯเมืองพัทยา และสมาชิกสภาเมืองพัทยา แวดวงการเมือง จึงยังให้ “บ้านใหญ่-คุณปลื่ม” เป็นต่ออยู่ แต่ไม่แน่…ช่วงโค้งสุดท้าย การหาเสียงอาจมีคนอื่นแซงขึ้นมาก็ได้
ยิ่งรอบนี้ “สนธยา-พี่ใหญ่คุณปลื้ม” มีเดิมพันการเมืองสูง เพราะหากผลเลือกตั้งออกมา ถ้าคนของตระกูลคุณปลื้ม แพ้เลือกตั้งนายกเมืองพัทยา และไม่สามารถกวาดที่นั่งเสียงข้างมากในสภาเมืองพัทยาได้ จะยิ่งทำให้ “บารมี-การยอมรับทางการเมือง” ของ “บ้านใหญ่คุณปลื้ม” ทั้งในพื้นที่ชลบุรี-ภาคตะวันออก รวมถึงในพรรคพลังประชารัฐ ที่ “อิทธิพล คุณปลื้ม” เป็นรมว.วัฒนธรรมอยู่ จะยิ่งมีปัญหา ที่แน่ๆ มันจะทำให้ “บทบาท-สถานะ” ของ “เสี่ยเฮ้ง-สุชาติ ชมกลิ่น” รมว.แรงงาน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่เป็น “คู่ปรับการเมือง” ของกลุ่มคุณปลื้มในเวลานี้ บทบาทของกลุ่มเสี่ยเฮ้ง-สุชาติ จะยิ่งแข็งแกร่ง สวนทางกับกลุ่มบ้านใหญ่-คุณปลื้ม ทันที
แม้จะมีข่าวลือหนาหูว่า “สนธยา” จะย้ายออกไปอยู่กับ “พรรคสร้างอนาคตไทย” ของ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” และ “สี่กุมาร” เพื่อไปเป็นหัวหน้าทีมเลือกตั้งโซนตะวันออก
ทำให้ “สนธยา” อาจไม่ต้องแคร์กับ “กลุ่มเสี่ยเฮ้ง” แล้ว เพราะจะแพ้หรือชนะ ในศึกเลือกตั้งพัทยารอบนี้ อาจไม่มีผลกับกลุ่มของสนธยาในพลังประชารัฐเท่าใดนัก หากกลุ่มคุณปลื้มจะย้ายออกจากพลังประชารัฐ
กระนั้นในทางการเมือง ต้องไม่ลืมว่า หากกลุ่มคุณปลื้มล้มเหลวในการเลือกตั้งพัทยาครั้งนี้ มันก็จะทำให้เครดิตการเมืองของกลุ่มคุณปลื้ม….เสียทรงไปทันที
ทำให้ไม่ว่าสุดท้าย กลุ่มคุณปลื้มจะย้ายออกจากพลังประชารัฐ หรืออาจจะอยู่ต่อ หลังเริ่มเห็นแล้วว่า กระแส “พรรคสร้างอนาคตไทย” ไม่หวือหวา…อย่างที่คิด จนคนเริ่มมองกันแล้วว่าสุดท้าย “พรรคใหม่สมคิด-สี่กุมาร” อาจจุดไม่ติด ทำให้เริ่มมีกระแสข่าวว่า “กลุ่มคุณปลื้ม” เริ่มชักไม่อยากไปอยู่พรรคสร้างอนาคตไทยแล้ว โดยอาจปักหลักอยู่พลังประชารัฐต่อไป หรือไม่ก็กลับไปปัดฝุ่นพรรคพลังชล พรรคที่ทางกลุ่มตั้งไว้ในการเลือกตั้งปี 2554 จะดีกว่า
แต่กว่าจะไปถึงการตัดสินใจตอนนั้น ศึกแรกที่ “กลุ่มบ้านใหญ่-คุณปลื้ม” ต้องฝ่าไปให้ได้ และต้องทำให้สำเร็จ คงไม่พ้น การเลือกตั้งนายกเมืองพัทยา และ สมาชิกสภาเมืองพัทยา โดยเฉพาะเก้าอี้นายกเมืองพัทยา กลุ่มคุณปลื้ม ต้องทำทุกอย่างให้คนของกลุ่ม “ปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์” ชนะเลือกตั้งให้ได้ ไม่เช่นนั้น อาจถึงขั้นแผ่นดินไหวกันในซุ้มบ้านใหญ่-คุณปลื้ม หลายริกเตอร์ตามมาแน่นอน
ด้วยเดิมพันผลเลือกตั้ง นายกเมืองพัทยาและสมาชิกสภาเมืองพัทยา ที่สูงขนาดนี้ จึงทำให้ทีมหาเสียงเลือกตั้งพัทยา ของกลุ่มบ้านใหญ่-คุณปลื้ม ทุกคนคงต้องท่องเหมือนกันหมด ตอนเดินออกจากบ้านใหญ่-คุณปลื้ม เพื่อลงพื้นที่หาเสียงว่า “แพ้ไม่ได้-แพ้ไม่ได้”
ซึ่งเพราะคำว่า “แพ้ไม่ได้” นี้นั่นเอง ทำให้เลือกตั้งเมืองพัทยารอบนี้ คนพัทยาและคนนอกพื้นที่เลยบอกตรงกัน “สนามเลือกตั้งครั้งนี้ แนวรบการเมืองการหาเสียง ร้อนระอุ กลางแดงเปรี้ยง ริมหาดพัทยา”
……………………
คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง
โดย…พระจันทร์เสี้ยว