“สุวรรณภูมิ” เปิด 56 เคาน์เตอร์ ตรวจหนังสือเดินทางขาเข้า ชั้น 2 โซน 1 แล้ว หลังปิดปรับปรุงตั้งแต่ 1 เม.ย. รองรับ 4,080 คน ต่อชั่วโมง ลดความคับคั่ง รองรับผู้โดยสารเพิ่มหลังคลายมาตรการเข้าประเทศ และเร่งปรับปรุงอีก 2 โซนเสร็จพ.ย. 65 รองรับได้ 9,660 คนต่อชั่วโมง
นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ “ทอท.” เปิดเผยว่า จากที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ได้ปิดปรับปรุง จุดตรวจหนังสือเดินทางขาเข้าระหว่างประเทศ บริเวณชั้น 2 โซน 1 อาคารผู้โดยสาร นั้น ขณะนี้ได้ดำเนินการเสร็จแล้ว โดยตั้งแต่เวลา 16.30 น. ของวันที่ 1 เมษายน 2565 จะกลับมาเปิดจุดตรวจหนังสือเดินทางขาเข้าระหว่างประเทศ บริเวณชั้น 2 โซน 1 อาคารผู้โดยสาร ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการด้านการตรวจหนังสือเดินทางช่วยลดความคับคั่งแออัด
โดยจุดตรวจหนังสือเดินทางขาเข้าระหว่างประเทศโซน 1 ที่ปรับปรุงใหม่นี้ มีเคาน์เตอร์ให้บริการตรวจหนังสือเดินทางรวมทั้งสิ้น 56 เคาน์เตอร์ แบ่งเป็น เคาน์เตอร์ตรวจหนังสือเดินทางสำหรับผู้โดยสารทั่วไป จำนวน 55 เคาน์เตอร์ และ เคาน์เตอร์ตรวจหนังสือเดินทางสำหรับผู้พิการ จำนวน 1 เคาน์เตอร์ พร้อมนี้ได้ติดตั้งเครื่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ (Auto Channel) จำนวน 8 เครื่อง ซึ่งจากการที่มีการขยายพื้นที่จุดตรวจหนังสือเดินทางขาเข้าระหว่างประเทศในครั้งนี้ จะทำให้ประสิทธิภาพการตรวจหนังสือเดินทางผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นจากเดิม 3,450 คนต่อชั่วโมง เป็น 4,080 คน ต่อชั่วโมง
นอกจากนี้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ยังมีแผนที่จะดำเนินการปิดปรับปรุงจุดตรวจหนังสือเดินทางขาเข้าระหว่างประเทศต่อเนื่องจำนวน 2 โซน ได้แก่ โซน 2 และ โซน 3 โดย จะเริ่มปิดปรับปรุงบริเวณโซน 3 ก่อน ตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2565 เป็นระยะเวลา 120 วัน หลังจากนั้นเมื่อโซน 3 กลับมาเปิดให้บริการตามปกติ จะทำการปิดปรับปรุงบริเวณโซน 2 เป็นพื้นที่ถัดไป โดยใช้ระยะเวลาในการปรับปรุงอีก 90 วัน ซึ่งในการดำเนินการปิดปรับปรุงจุดตรวจหนังสือเดินทางขาเข้าระหว่างประเทศที่โซน 2 และ โซน 3 นี้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะมีการขยายพื้นที่การให้บริการโดยมีจำนวนเคาน์เตอร์ตรวจหนังสือเดินทางและขีดความสามารถการรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจากเดิม
ทั้งนี้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คาดว่าจะดำเนินการปรับปรุงจุดตรวจหนังสือเดินทางขาเข้าระหว่างประเทศแล้วเสร็จและพร้อมกลับมาเปิดให้บริการได้พร้อมกันทุกพื้นที่ภายในเดือนพฤศจิกายน 2565 นี้ ซึ่งจะส่งผลให้ประสิทธิภาพในการตรวจหนังสือเดินทางผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ เพิ่มขึ้นจากเดิม 8,280 คนต่อชั่วโมง เป็น 9,660 คนต่อชั่วโมง ทำให้ผู้โดยสารได้รับการบริการที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ช่วยแก้ปัญหาความคับคั่งในการรอต่อคิวตรวจหนังสือเดินทาง ยกระดับการบริการ ทำให้ผู้โดยสารได้รับความพึงพอใจมากยิ่งขึ้น
ซึ่งจะมีการพัฒนาการให้บริการในทุกด้านเพื่อเพิ่มความสะดวก สบายให้แก่ ผู้โดยสาร ผู้ใช้บริการ ให้ได้รับการบริการที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สามารถรองรับจำนวนผู้โดยสารที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต มุ่งสู่การเป็นผู้ดำเนินการและจัดการท่าอากาศยานที่ดีระดับโลก และภายใต้แนวคิดการเดินทางวิถีใหม่ (Transport New Normal) ตามมาตรการด้านสาธารณสุข COVID-Free Setting สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ AOT Contact Center หมายเลขโทรศัพท์ 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง