“ต่อมไทรอยด์” อวัยวะที่สำคัญของร่างกายที่ทำหน้าผลิตฮอร์โมนในการควบคุมระบบการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย มีความผิดปกติสามารถรักษาได้หลายวิธี
อ.นพ.บุญสาม รุ่งภูวภัทร และ อ.นพ.พนัส บิณศิรวานิช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ภาควิชาโสต ศอ นาสิกวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ให้ข้อมูลว่า ต่อมไทรอยด์ ถือเป็นอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย โดยจะอยู่บริเวณกลางลำคอใต้ลูกกระเดือก ทางด้านหน้าของลำคอ โดยทั่วไปจะแบ่งเป็นต่อมที่อยู่ข้างขวาและข้างซ้ายและจะมีแนวเชื่อมกันตรงกลางบริเวณหน้าหลอดลม ต่อมไทรอยด์ทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญที่ช่วยในการควบคุมระบบการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย โดยร่างกายจะสามารถผลิตฮอร์โมนได้จากการสั่งงานจากสมอง ซึ่งสมองจะหลั่งฮอร์โมนมาควบคุมต่อมไทรอยด์ให้หลั่งฮอร์โมนไทรอยด์ได้อย่างถูกต้อง รวมถึงร่างกายต้องมีสารตั้งต้นในการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ คือ สารไอโอดีน ในปริมาณที่เพียงพอจึงจะทำงานได้ปกติ
ความผิดปกติที่สามารถเกิดได้ที่ต่อมไทรอยด์แบ่งเป็น 2 อย่างหลัก ๆ คือ ความผิดปกติที่ฮอร์โมน และ ความผิดปกติที่บริเวณโครงสร้าง เช่นการเกิดเนื้องอกขึ้นในต่อมไทรอยด์ ซึ่งความผิดปกติที่ฮอร์โมนอาจพบร่วมกับการเกิดเนื้องอกขึ้นในต่อมไทรอยด์ได้ โดยความผิดปกติที่ฮอร์โมนอาจจะเกิดจากต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนมากเกินไปหรือภาวะไทรอยด์เป็นพิษ และการผลิตฮอร์โมนที่น้อยเกินไป ซึ่งอาจเกิดจากตัวต่อมไทรอยด์เองหรือส่วนของสมองที่ควบคุม การรักษาในกลุ่มนี้จะมีเป้าหมายเพื่อทำให้ฮอร์โมนไทรอยด์กลับมาปกติ โดยทั่วไปจะรักษาด้วยการให้ยา อาจจะมีผู้ป่วยบางรายที่จำเป็นต้องรักษาด้วยการกลืนแร่ และการผ่าตัด
ส่วนความผิดปกติที่บริเวณโครงสร้างและการมีเนื้องอกขึ้นมาในต่อมไทรอยด์ ในอดีตนั้นเกิดจากประชาชนประสบปัญหาการขาดสารไอโอดีน จึงมีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่มีปัญหาต่อมไทรอยด์โตที่นิยมเรียกโดยทั่วไปว่า “โรคคอพอก” ซึ่งในกลุ่มนี้พอได้รับยารักษา ก้อนก็จะยุบลง แต่ในปัจจุบันการขาดสารไอโอดีนพบได้น้อยมาก ผู้ป่วยส่วนใหญ่จึงมาด้วยก้อนเนื้องอกในต่อมไทรอยด์ที่ไม่ค่อยตอบสนองกับการได้รับยา เมื่อผู้ป่วยมาพบแพทย์จะได้รับการตรวจด้วยอัลตราซาวด์ และการเจาะตรวจเซลล์บริเวณเนื้องอกไปตรวจ เมื่อได้ผล แพทย์จะประเมินจากผลตรวจ และแจ้งแนวทางการรักษา ซึ่งการรักษาเนื้องอกในต่อมไทรอยด์ จะแบ่งเป็นการติดตามอาการที่ผิดปกติ ขนาดก้อน การเจาะตรวจเซลล์บริเวณเนื้องอก และการผ่าตัด
การผ่าตัดในต่อมไทรอยด์จะทำต่อเมื่อมีข้อบ่งชี้ คือ ก้อนที่มีขนาดโตจนมีการกดเบียดอวัยวะข้างเคียง เช่น หลอดอาหารและหลอดลม ทำให้เกิดอาการกลืนลำบากหรือหายใจเหนื่อย, ก้อนที่มีลักษณะที่สงสัยว่าจะเป็นกลุ่มมะเร็ง และก้อนที่ผู้ป่วยต้องการที่จะผ่าตัดเนื่องจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น ความสวยงาม เป็นต้น โดยการผ่าตัดจะมีความเสี่ยงที่สำคัญ แม้โอกาสเกิดขึ้นได้น้อย คือเสียงแหบจากการบาดเจ็บต่อเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงเส้นเสียง ซึ่งอยู่บริเวณใต้ต่อต่อมไทรอยด์ ทั้งนี้ผู้ป่วยควรสอบถามรายละเอียดความเสี่ยงต่าง ๆ จากการผ่าตัดกับแพทย์ที่เป็นผู้ผ่าตัดเป็นรายบุคคล
การผ่าตัดโดยทั่วไปสามารถทำได้ด้วย การผ่าตัดแบบเปิด โดยผู้ป่วยจะมีแผลบริเวณตรงกลางคอประมาณ 2 ถึง 4 นิ้ว และ การผ่าตัดส่องกล้อง ซึ่งมีทางเข้าบริเวณอื่นทำให้ไม่เกิดแผลเป็นที่คอ ทั้งนี้ผู้ป่วยจำเป็นต้องสอบถามรายละเอียดเป็นรายบุคคลกับแพทย์ที่ทำการผ่าตัด
ในปัจจุบัน จะพบผู้ป่วยที่ตรวจพบเนื้องอกในต่อมไทรอยด์ที่มีขนาดโต ประเภทที่ตรวจพิสูจน์แล้วว่าไม่พบลักษณะมะเร็ง ทั้งจากการตรวจอัลตราซาวด์และการเจาะตรวจเซลล์บริเวณเนื้องอก ซึ่งในผู้ป่วยกลุ่มนี้จะมีทางเลือกในการรักษาทางใหม่ นอกจากการผ่าตัด คือ การใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูง (High Intensity Focus Ultrasound: HIFU) ส่งคลื่นความร้อนผ่านบริเวณผิวหนังเข้าไปทำให้ก้อนบริเวณเนื้องอกเกิดการยุบตัว ลดขนาดของเนื้องอกลงได้ ประมาณ 20 ถึง 70 เปอร์เซ็นต์