“อนุทิน” ยืนยันรัฐบาลเดินหน้าปราบสแกมเมอร์อย่างจริงจัง ยึดทรัพย์แล้วหลักหมื่นล้านบาท พร้อมเพิกถอนวีซ่า-สัญชาติผู้กระทำผิด ย้ำมีการทำงานต่อเนื่องร่วมกับทุกหน่วยงานทั้ง ปปง. ดีอีเอส และธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสกัดเส้นทางการเงินผิดกฎหมาย พร้อมสวนฝ่ายค้าน “อย่าอ้างชื่อย่อ” ท้าเปิดชื่อจริงหากมีหลักฐาน ย้ำรัฐบาลไม่ปกป้องใครผิดกฎหมาย
เมื่อเวลา 12.28 น. วันที่ 6 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือสแกมเมอร์ ในช่วง 1 เดือนที่เข้ามารับตำแหน่ง ว่ารัฐบาลดำเนินการเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด เพราะเป็นปัญหาที่ซับซ้อนและต้องอาศัยเทคโนโลยีขั้นสูงในการสืบสวน
นายอนุทินกล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องทำงานเชิงลึก ทั้งการติดตามเส้นทางการเงินและการดักจับพฤติกรรมการกระทำผิด ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดต่อสาธารณะได้ แต่ยืนยันว่าผลงานเกิดขึ้นจริง มีการยึดทรัพย์สินของกลุ่มผู้กระทำผิดมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท รวมถึงการเพิกถอนถิ่นพำนัก วีซ่า และสัญชาติของชาวต่างชาติที่เกี่ยวข้อง
นายกรัฐมนตรีระบุว่า เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพและโปร่งใสมากยิ่งขึ้น รัฐบาลได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับหน่วยงานสนับสนุนหลัก อาทิ ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย สำนักงานก.ล.ต. และสำนักงานกสทช. เพื่อเพิ่มความคล่องตัวให้แก่เจ้าหน้าที่ในภารกิจปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวฝ่ายค้านอ้างว่ามีนักการเมือง 7 คนเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการสแกมเมอร์ นายอนุทินตอบว่า รัฐบาลดำเนินการตามข้อมูลข่าวสารและหลักฐานที่มี ไม่ใช่ตามเสียงลือเสียงเล่าอ้าง พร้อมย้ำว่าผู้กระทำผิดจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น
ส่วนกรณีมีการกล่าวหาว่าผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติรับผลประโยชน์จากขบวนการสแกมเมอร์ นายกฯ กล่าวว่า “ไม่มีใครใหญ่กว่า ผบ.ตร. (พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร) วันนี้ผมก็พูดคุยกับท่านโดยตรง จึงไม่กังวลอะไร” พร้อมย้ำว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างเฉียบขาด ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย
นายอนุทินยังกล่าวถึงกระแสการ “แฉรายวัน” ว่าเป็นเรื่องดี เพราะทำให้เจ้าหน้าที่ต้องกระตือรือร้นและตื่นตัวในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม พร้อมเปิดกว้างรับข้อมูลจากทุกฝ่าย โดยย้ำว่า “หากมีหลักฐานจริง ขอให้เอ่ยชื่อชัดเจน รัฐบาลพร้อมคุ้มครองความปลอดภัยให้ และจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา”
นายกฯ กล่าวว่า หากใครมีข้อมูลเพิ่มเติมสามารถส่งตรงถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการอื่น เพื่อไม่ให้เสียเวลาและเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการปราบปรามขบวนการสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก





































