ทนกระแสสังคมไม่ไหว กองปราบฯจ่อแจ้งข้อกล่าวหา “สกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ” คดีติดสินบน 20 ล้านที่ดินสนง.ทรัพย์สินฯ “สว.สมชาย” แย้มตร.เตรียมรื้อคดี พร้อมจี้ให้สอบ สาวให้ถึง “ตัวการ” ด้วย
เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึงนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด เพื่อขอให้ชี้แจงเหตุผลว่าเหตุใดอัยการสำนักงานคดีพิเศษ จึงไม่ฟ้อง นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ (น้องชายนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า) กรณีจ่ายเงินสินบน 20 ล้านบาทให้กับนายประสิทธิ์ อภัยพลชาญ เจ้าหน้าที่ฝ่ายโครงการพิเศษ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (ชื่อเดิม) และนายสุรกิจ ตั้งวิทูวนิช เพื่อให้บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ได้สิทธิการเช่าระยะยาวที่ดินบริเวณองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ชิดลม) ซึ่งเป็นทรัพย์สินของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ โดยมีค่าตอบแทนจำนวน 500 ล้านบาท เพื่อจะได้ไม่ต้องผ่านการประมูลแข่งขันตามขั้นตอนปกติ และแต่มานายวัชระยังได้ยื่นร้องเรียนต่อพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เพื่อสอบถามกรณีที่พนักงานสอบสวน สั่งไม่ฟ้อง นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าเกิดจากสาเหตุใด โดยขอให้ดำเนินการเอาผิดพนักงานสอบสวนที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากเกรงว่าจะซ้ำรอยคดีบอส กระทิงแดง กรณีดังกล่าวกระแสสังคมเริ่มพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง ว่าเกิดอะไรขึ้น เป็นความผิดพลาดในขั้นตอนใดถึงไม่มีการสั่งฟ้องนายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ
ในเรื่องนี้ นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุสั้นๆ ว่า “ข่าวว่าตำรวจเตรียมรื้อคดีฮั้วฮุบที่ดิน 12 ไร่ใจกลางชิดลม สินบน 20 หรือ 500 ล้าน? ต้องสอบให้สิ้นสงสัยสาวให้ถึงตัวการด้วย” ซึ่งปรากฏว่า มีการแชร์ข้อความดังกล่าว 200 ครั้ง และมีการเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย
ทั้งนี้มีรายงานแจ้งว่า การสอบสวนคดีนี้ กองปราบปรามฯ ดำเนินการสอบสวนในทางลับ ตั้งแต่ปี 2560 จนได้ข้อมูลการกระทำผิดที่ชัดเจนของเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินฯรายดังกล่าว จึงเชิญสำนักงานทรัพย์สินฯ มาเพื่อแจ้งความดำเนินคดีนี้ โดยระหว่างการสอบสวนคดี มี พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม (ยศขณะนั้น ปัจจุบันยศ “พล.ต.ต.” ดำรงตำแหน่งผู้บังคับการกองปราบปรามฯ) เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ในระหว่างนั้นมีการถกเถียงว่า จะดำเนินคดีกับนายสกุลธรหรือไม่ ในฐานะ “ผู้ใช้” หรือ “ผู้จ้างวาน” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 84 แต่ในที่สุดก็ไม่มีการดำเนินคดีกับนายสกุลธร และไม่มีการเรียกนายสกุลธร มาสอบปากคำด้วย เพราะพยานเอกสารหลักฐานมีเพียงพอที่จะดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินฯ สองรายนั้น จึงไม่ปรากฏชื่อของนายสกุลธร อยู่ในสำนวนเลย แต่ภายหลังเมื่อมีกระแสการวิพากษ์วิจารณ์คดีนี้ ทางกองปราบปรามฯ จึงมีการหารือกันในเรื่องนี้ และเห็นว่า อาจมีการเรียกนายสกุลธร เพื่อมาแจ้งข้อกล่าวหาในคดีนี้แล้ว