คณะทำงานเศรษฐกิจเพื่อไทย แนะ “ประยุทธ์”ลดทิฐิ และยอมรับได้แล้วว่าตัวเองตกยุคและตามโลกไม่ทัน ควรปรึกษา “ทักษิณ” ก่อนเศรษฐกิจกู่ไม่กลับ
วันที่ 15 เม.ย.65 นายพชร นริพทะพันธุ์ กรรมการบริหาร และคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า อยากให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจได้พิจารณาขอความช่วยเหลือหาทางแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจที่ “พี่โทนี่” เสนอจะมาให้คำปรึกษาหาทางแก้ไข เพื่อเห็นประโยชน์แก่ประเทศและช่วยเหลือประชาชนไม่ให้เดือดร้อนหนักขึ้นกว่านี้ ทั้งนี้หากใครได้ฟังพี่โทนี่ในคลับเฮ้าส์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาจะทราบถึงปัญหาและทางแก้ของประเทศไทย อีกทั้งวิสัยทัศน์ในอนาคตที่มองเห็นว่าโลกจะเป็นอย่างไร และ ประเทศไทยจะเป็นอย่างไร ทั้งปล่อย AR (Augmented reality) ให้ประชาชนได้เข้าไปใช้เหมือนพี่โทนี่เข้ามาอยู่ในบ้านเลย ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีของ Metaverse ที่พลเอกประยุทธ์น่าจะยังไม่เข้าใจเลย จึงอยากให้พลเอกประยุทธ์ได้ลดทิฐิมานะ และ ยอมรับได้แล้วว่าตัวเองตกยุคและตามโลกไม่ทัน และต้องขอให้คนที่ก้าวทันโลกมาช่วยได้แล้ว ซึ่งไม่ได้อยู่ที่อายุแต่อยู่ที่ความฉลาดและความรอบรู้ที่พลเอกประยุทธ์ขาดแคลนอย่างมาก
ทั้งนี้ปัจจุบันประเทศไทยมีปัญหาทางเศรษฐกิจหลายด้านรุมเร้า แต่ไม่แน่ใจว่าพลเอกประยุทธ์จะรู้ปัญหาหรือไม่ เพราะดูเหมือนจะยังไม่รับรู้ความเดือดร้อนของประชาชน คิดแต่จะรักษาอำนาจเท่านั้น ถ้าไม่รู้ปัญหาก็จะแก้ปัญหาไม่ได้ ดังนั้นจึงอยากให้พลเอกได้เรียนรู้และหาทางแก้ไขปัญหามากมายที่เป็นอยู่ดังนี้
- การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยที่ต่ำมาตลอด อัตราขยายตัวเฉลี่ยตลอด 8 ปี ขยายได้เพียงปีละแค่ 1%กว่า เท่านั้น
- หนี้สาธารณะที่สูง ปัจจุบันอยู่ที่ 9.828 ล้านล้านบาท ใกล้จะทะลุ 10 ล้านล้านบาทแล้ว และจะทะลุเกิน 60% ของจีดีพีแล้ว ยังไม่มีทางที่จะลดได้
- หนี้ครัวเรือนสูงถึง 14.58 ล้านล้านบาท เกินกว่า 90% ของจีดีพีแล้ว ใกล้จะทะลุ 15 ล้านล้านบาท ประชาชนไม่มีแนวทางหารายได้เพิ่ม
- หนี้เสียธนาคารสูงขึ้นเรื่อยๆ หนี้เสี่ยงจะเสียสูงถึง 2 ล้านล้านบาท ปัญหาหนี้เสียจะเพิ่มขึ้นอีกมาก
- หนี้นอกระบบ มีการสำรวจพบว่ามีมากกว่า 85,000 ล้านบาท และประชาชนต้องจ่ายดอกเบี้ยมหาโหด
- คนตกงานมาก ประมาณ 5-6 ล้านคน จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ตำ่มานาน
- คนจนเพิ่มขึ้นมาก จากบัครคนจน 20 ล้านใบที่พลเอกประยุทธ์จะแจก ทั้งนี้คนจนเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่ก่อนวิกฤตไวรัสโควิด
- เงินเฟ้อสูง โดยล่าสุดเดือนมีนาคมเงินเฟ้อของไทย 5.73% สูงสุดใน 13 ปี ปีนี้ แบงค์ชาติคาดเงินเฟ้อปีนี้ 4.9% กระทรวงพาณิชย์คาด 4-5% ทั้งนี้ ล่าสุดเงินเฟ้อของสหรัฐในเดือนมีนาคมพุ่งสูงถึง 8.5% สูงที่สุดในรอบ 40 ปี ดังนั้นแนวโน้มเงินเฟ้อของไทยน่าจะสูงขึ้นมาก
- พลังงานมีราคาแพง น้ำมันแพง ซึ่งน่าจะอยู่ในระดับ 100$ ต้นๆ ต่อบาเรล ก๊าซแพง ถัง 15 กก. จะขึ้นถึง 363 บาท ไฟฟ้าแพง หน่วยละ 4 บาท ประชาชนต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายทางพลังงานสูง
- ดอกเบี้นกำลังจะขึ้น โดยสหรัฐจะขึ้นถึง 1.75 % ปีนี้ และจะถึง 2.75 % ในปีหน้า ไทยจะถ่วงเวลาขึ้นดอกเบี้ยได้นานขนาดไหน
- ราคาปุ๋ยแพงขึ้น 200-300% ราคาอาหารสัตว์สูงขึ้นมาก ชาวนาและเกษตรกรลำบากกันมาก
- ไม่มีจุดการเจริญเติบโต ประเทศไร้ทิศทาง
- รายจ่ายเพิ่มสูง แต่รายได้ไม่เพิ่ม แถมคนจำนวนมากไม่มีงานทำและไม่มีรายได้
- ค่าแรงงานขั้นต่ำไม่พอประทังชีวิต
- ราคาสินค้าเกษตรไม่ขึ้นเท่าที่ควร ทั้งที่ราคาควรขึ้นมากกว่านี้
- การคอรัปชั่นเพิ่มขึ้นมาก อันดับคอรัปชั่นไทย ตกลงตลอด 5 ปีติด อันดับคอรัปชั่นไทยปี 2564 หล่นมาอยู่ที่ 110 ได้ 35 คะแนน อยู่อันด้บ 6 ของอาเซียนตลอด 5 ปี อันดับไทยหล่นมาตลอด ปี 2560 อยุ่อันดับ 96 ปี 2561 อยู่อันดับ 99 ปี 2562 อยู่อันดับ 101 ปี 2563 อยู่อันดับ 104 และ ปี 2564 อยู่อันดับที่ 110
ปัญหาเหล่านี้ หลายปัญหาเป็นปัญหาที่สะสมมานานแต่พลเอกประยุกต์ไม่เคยแก้ไข หรือ อาจจะยังไม่รู้ว่าเป็นปัญหาด้วยซ้ำ ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะรุนแรงมากขึ้นไปอีกในอนาคต ดังนั้นพลเอกประยุทธ์จะต้องหาคนเก่ง คนที่รู้จริงและมีประสบการณ์เข้ามาช่วยแก้ไข ซึ่งคนที่จะสามารถแก้ไขได้และเคยแก้ไขสำเร็จมาแล้วก็คือ “พี่โทนี่” ที่พลเอกประยุทธ์ควรจะต้องขอคำปรึกษาและคำแนะนำก่อนเศรษฐกิจไทยจะกู่ไม่กลับ