พรรคไทยสร้างไทย โดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรค พร้อมด้วยนายชัชวาล แพทยาไทย คณะทำงานด้านการเกษตร และทีมไทยสร้างไทยจังหวัดร้อยเอ็ด และยโสธร ลงพื้นที่รับฟังปัญหาเกษตรกรทุ่งกุลาร้องไห้ ในช่วงเพาะปลูกข้าวในฤดูกาลที่จะมาถึงนี้ ที่เกษตรกรชาวนาต้องประสบกับสภาวะราคาปุ๋ยเคมีเพิ่มสูงขึ้นเท่าตัว
โดยเกษตรกรชาวนา ‘ทุ่งกุลาร้องไห้’ ได้แบกกระสอบปุ๋ยเคมี ที่เป็นสัญลักษณ์ของความทุกข์ จากพี่น้องเกษตรกรชาวนาจังหวัดร้อยเอ็ดที่มาร่วมสะท้อนปัญหากว่า 1,000 คน เพื่อขอให้คุณหญิงสุดารัตน์ ดำเนินการช่วยเหลือ หลังจากหลังไม่สามารถพึ่งพารัฐบาลได้จากต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่าปัญหาต้นทุนการผลิตของเกษตรกรเป็นปัญหาใหญ่ที่สะสมมาอย่างยาวนาน โดยในปัจจุบันราคาปุ๋ยเคมีเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัวจากราคา 700 บาท เป็น 1,750 บาท และถูกซ้ำเติมจากราคาน้ำมันแพงขึ้นอีก ซึ่งต้นทุนการผลิตต่อไร่เพิ่มสูงขึ้นกว่า 3,750 บาท หากราคาข้าวยังอยู่ที่กิโลกรัมละ 8 บาท จะทำให้เกษตรกรขายข้าวได้ 2,800 บาท จะทำให้เกษตรกรชาวนาขาดทุนยับเยิน
โดยในปลายเดือนนี้เกษตรชาวนา เริ่มใส่ปุ๋ยรองพื้นรอบแรก พรรคไทยสร้างไทย จึงขอเสนอมาตรการระยะสั้น และระยะยาว โดยมาตรการระยะสั้น รัฐจะต้องเข้ามาดูแลช่วยสนับสนุน และลดต้นทุนให้กับเกษตรกร โดยเฉพาะราคาปุ๋ย และต้องควบคุมราคาปุ๋ยไม่ให้แพงเกินจริง พร้อมช่วยอุดหนุนเพื่อลดต้นทุนราคาปุ๋ยให้กับเกษตรกร
ส่วนมาตรการระยาว รัฐต้องมองถึงการพึ่งพาตัวเอง โดยนโยบายพรรคไทยสร้างไทย มุ่งสู่การเป็น ‘เกษตรอินทรีย์’ ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลาในการเปลี่ยนผ่านโดยจะต้องไม่ใช่การผลักภาระไปให้กับเกษตรกร ดังนั้นการดูแลเกษตรกรเพื่อให้สามารถอยู่ได้ ประเทศไทยจึงจำเป็นต้องสามารถผลิตปุ๋ยโพแทสเซียมได้เอง เป็นหลักในการทำปุ๋ยเคมีของธาตุ N, P, K ซึ่งโพแทสเซียม มีแหล่งทรัพยากรส่วนใหญ่อยู่ในอีสาน
พรรคไทยสร้างไทย จึงมีนโยบายสนับสนุนให้ผลิตปุ๋ยโพแทสเซียมในประเทศไทได้เพื่อลดการนำเข้าปุ๋ยเคมีจากต่างประเทศ โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ที่สามารถควบคุมกำกับการผลิตปุ๋ยไม่ให้เกิดผลเสียสารปนเปื้อน และต้องผ่านการทำประชาพิจารณ์อย่างครบถ้วน
ทั้งนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ เตรียมนำหนังสือไปยังรัฐบาล เพื่อให้เร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกร พร้อมกับระบุว่าจะขอนำความทุกข์ของพี่น้อง มาแบกไว้บนบ่า เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาให้คนไทย หายจน หมดหนี้ มีรายได้ตลอดทั้งปี”ให้ได้