ป.ป.ช.เปิดบัญชีทรัพย์สิน “น้ำหอม” ส.ส.สงขลา ปชป.ใหม่มาด รวยอู้ฟู่ 635 ล้าน ครอบครองปืน 8 กระบอก
วันที่ 26 เม.ย.65 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ น.ส.สุภาพร กำเนิดผล กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 27 ม.ค.65 โดย น.ส.สุภาพร แจ้งสถานภาพว่า อยู่กินกันฉันสามีภริยากับ นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ โดยมีบุตร 2 คน ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 1 คน
ทั้งนี้ พบว่า น.ส.สุภาพพร นายเดชอิศม์ และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สินรวมกันทั้งสิ้น 635,831,734 บาท และมีหนี้สินรวมกัน 52,644,424 บาท
รายละเอียดทรัพย์สิน ประกอบด้วย เงินฝากของ น.ส.สุภาพร 44 บัญชี จำนวน 19,976,780 บาท เงินฝากของนายเดชอิศม์ 13 บัญชี จำนวน 33,770,324 บาท เงินฝากของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 2 บัญชี จำนวน 178,992 บาท เงินลงทุนของ น.ส.สุภาพร มูลค่า 67,150,043 บาท เงินลงทุนของนายเดชอิศม์ จำนวน 10,850,000 บาท ที่ดินในชื่อของ น.ส.สุภาพร 43 แปลง จำนวน 167,100,000 บาท ที่ดินในชื่อของนายเดชอิศม์ 59 แปลง จำนวน 243,635,000 บาท ส่วนใหญ่อยู่ในหลายอำเภอของ จ.สงขลา และพัทลุง
โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างในชื่อของ น.ส.สุภาพรและนายเดชอิศม์ รวมกัน 7 หลัง มูลค่า 44,069,823 บาท ประกอบด้วย สนามชนโค อ.รัตภูมิ จ.สงขลา 1 แห่ง คอนโดมีเนียม 3 หลัง บ้านพักที่อยู่อาศัย 3 หลัง มีทั้งที่ กทม.และสงขลา ยานพาหนะในชื่อของ น.ส.สุภาพรและนายเดชอิศม์ มีทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และรถแทร็กเตอร์ รวมกัน 17 คัน มูลค่า 26,734,000 บาท สิทธิและสัมปทานของ น.ส.สุภาพร นายเดชอิศม์ และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มูลค่ารวมกัน 16,831,869 บาท
ขณะที่รายการทรัพย์สินอื่นของ น.ส.สุภาพรและนายเดชอิศม์ รวมกัน 48 รายการ มูลค่า 5,534,930 บาท โดยมีรายการที่น่าสนใจ อาทิ อาวุธปืน 8 กระบอก นาฬิกายี่หรู 6 เรือน อัญมณี เครื่องประดับ และทองคำรวม 15 รายการ กระเป๋าแบรนด์เนม 19 ใบ
น.ส.สุภาพรแจ้งว่า ตนเองและนายเดชอิศม์ มีเงินเบิกเกินบัญชีรวม 10 บัญชี จำนวน 543,779 บาท เงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่นในชื่อของ น.ส.สุภาพรคนเดียว มูลค่า 2,100,645 บาท และมีหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือในชื่อของ น.ส.สุภาพร 50,000,000 บาท โดยเป็นเงินกู้จากกสิกรลิซซิ่ง และนายบัณฑิต สมบูรณ์ เมื่อวันที่ 3 ก.ค.64 จำนวน 20,000,000 บาท และกู้จากนายฉัตรชัย จิระโร 30,000,000 บาท เมื่อวันที่ 17 มี.ค.64.