“อนุทิน” เผยแนวโน้มโควิดในไทยขาลง ประชาชนให้ความร่วมมือ ส่วนการเป็นโรคประจำถิ่นต้องประเมินทั้งประเทศ ระบุเสียชีวิตรายวันกว่า 90% ไม่ฉีดวัคซีน
เมื่อวันที่ 27 เม.ย. เวลา 09.30 น. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้โรคโควิด -19 ถือว่ามีแนวโน้มลงมาระดับหนึ่ง หวังว่าถ้าเชื้อไม่มีการกลายพันธุ์ จำนวนคนติดเชื้อ เสียชีวิตก็น่าจะลดลงในระยะเวลาอันใกล้ ซึ่งติดตามทุกวันเห็นว่าคนใช้เครื่องช่วยหายใจ ปอดอักเสบอาหารหนักลดลง การใช้ยาต้านไวรัสก็เป็นขาลง
นายอนุทิน กล่าวว่า หวังว่าน่าจะเป็นแนวโน้มที่ดี สอดคล้องกับความตั้งใจของกระทรวงสาธารณสุข และรัฐบาลที่จะให้ประเทศผ่อนคลายมาตรการมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิต ต้องมีการจำแนกว่าเป็นการเสียชีวิตจากโควิดจริงๆ หรือเสียชีวิตและตรวจพบว่ามีโควิดร่วมด้วย ซึ่งพบเสียชีวิตจากโควิดจริงๆ น้อยกว่าก็สะท้อนว่าโควิดทำลายชีวิตคนได้น้อยลง และคนที่เสียชีวิตจากโควิด ส่วนใหญ่ ประมาณ 90 %ไม่ได้รับวัคซีน
รมว.สาธารณสุข กล่าว่า ขณะนี้ในการเป็นโรคประจำถิ่นนั้นแต่ละจังหวัดถือว่ามีความพร้อมกันแล้ว ประธานกรรมการโรคติดต่อก็รับทราบนโยบายรัฐบาล และความต้องการของประชาชนที่องการเปิดประเทศทำมาหากินได้ แต่ก็ต้องการความมั่นใจจะไม่เป็นอันตรายกับสุขภาพ ซึ่งย้ำว่าวัคซีนสำคัญ ต้องบู๊สเตอร์ 3 เข็ม 4 เข็มได้ยิ่งดี ถ้าไม่มีโรคประจำตัวคนฉีด 4 เข็ม ติดเชื้อได้ แต่ไม่เป็นอะไรเลย โดยมากกว่า 90 % ไม่มีอาการ ไม่ต้องเข้ารพ. ไม่ต้องกินยา ทั้งนี้ประเทศไทยมีการฉีดวัคซีนมาก เหลือผู้สูงอายุ ดังนั้นถึงเวลาเปลี่ยนมายเซ็ต ถ้าจะให้ประเทศไทยมีความปลอดภัยครบวงจร ก็ฉีดวัคซีน แล้วทุกอย่างจะผ่อนคลายได้มากที่สุด องค์การอนามัยโลกก็ชม และจะเอาประเทศไทยเป็นตัวอย่างในการรับมือกับวิกฤติ ดังนั้นเราต้องช่วยกันสนับสนุน นำให้เห็น
“การเป็นโรคประจำถิ่นจะต้องดูทั้งประเทศ จะเป็นเฉพาะจังหวัดใดจังหวัดหนึ่งก่อนไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะเกิดความวุ่นวายมาก ต้องให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน วันนี้ไม่ใช่สิ่งที่ยาก ประชาชนต้องเข้าใจ สวมหน้ากากอนามัย ฉัดวัคซีน สถานพยาบาล ยา บุคลากรมีความพร้อม เราก็ต้องลุย ต้องเดินหน้าไป ส่วนแผนต่างๆ กรมควบคุมโรคก็จะเสนอศบค.ต่อไป ซึ่งศบค. และครม.ทั้งคณะ นายกรัฐมนตรีให้การสนับสนุนเต็มที่” นายอนุทิน กล่าว
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้เข้าใจว่าเรามีทั้งคนที่อยากเปิดหมด บางกลุ่มก็ยังไม่อยากให้เปิด ดังนั้นเราต้องพยายามสร้างสมดุลด้วยหลักฐาน ด้วยสถิติเพื่อให้เห็นว่าได้แล้ว และค่อยๆ เปิด และได้รับความร่วมมือเต็มที่ ส่วนหลังสงกรานต์ที่ตัวเลขติดเชื้อไม่เพิ่มขึ้นนั้นต้องขอบคุณประชาชนที่ให้ร่วมมือกันทุกฝ่ายในการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมป้องกนโรค และมาฉีดวัคซีน ตอนนี้ผ่านมา 10 วันแล้ว หวังว่าจะคงการติดเชื้อตรงนี้ให้ได้ แต่ต้องดูที่อาการหากไม่มีอาการอะไรก็ไม่ต้องตกใจ จำนวนมากไม่ได้กินยาก็หายเอง
