“สมชัย” จ่อยื่นกกต. สอบปมใบส้ม “สุรพล-แรมโบ้” เข้าข่ายผิดมาตรฐานจริยธรรม ชี้รายงานค่าใช้จ่ายเท็จ เชื่อนำเงินซื้อเสียง
วันที่ 28 เม.ย. 65 ที่รัฐสภา นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ว่า วันพรุ่งนี้ (29 เม.ย.) จะไปยื่นที่กกต. 2 เรื่อง 1.กรณีให้ใบส้มนายสุรพล เกียรติไชยากร อดีตส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 ซึ่งจากคำพิพากษาของศาลพบว่า กกต. มีการลงมติเอกฉันท์ 6 ต่อ 0 ซึ่งความจริงแล้ว กกต. มีทั้งหมด 7 คน แสดงว่ามี 1 คนที่ไม่ได้ร่วมประชุมในการลงมติครั้งนั้น แต่เมื่อไปดูรายงานการประชุมพบว่า เมื่อเปิดการประชุมวันที่ 27 เม.ย. 62 มี กกต. เข้าประชุมครบทั้ง 7 คน หลังจากนั้นพอถึงวาระที่ 5.1 เป็นต้นไป ซึ่งวาระให้ใบส้มคือวาระที่ 5.4 ปรากฏว่ามี กกต.คนหนึ่งได้เดินออกจากที่ประชุม โดยเขียนสั้นๆ ว่าติดภารกิจ ประเด็นดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะกกต.เวลาประชุมตัดสินเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องคดีทุจริตการเลือกตั้ง การวินิจฉัยให้ใบเหลือง ใบแดง ใบส้ม จำเป็นจะต้องมี กกต.อยู่ในที่ประชุม
นายสมชัย กล่าวต่อว่า แม้ในแง่ข้อกำหนดจะระบุว่าองค์ประชุม 5 คนขึ้นไปก็ประชุมได้ก็ตาม แต่ในพ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง มาตรา 28 ระบุไว้ว่า กรรมการทุกคนจะต้องเข้าประชุม และถ้าหากมีการขาดการประชุมหรือไม่อยู่ในที่ประชุมโดยไม่มีเหตุผลสมควร ถือว่าผิดมาตรฐานทางจริยธรรม ดังนั้น ตนจึงอยากให้ กกต. ยืนยันว่ามี กกต.หนึ่งคนเดินออกจากที่ประชุมในวันนั้นหรือไม่ และชื่ออะไร ซึ่งความจริงตนทราบชื่อแล้ว รวมถึงเหตุผลที่ออกจากที่ประชุมคืออะไร และกกต.ได้พิจารณาแล้วหรือไม่ว่าเป็นเหตุผลอันสมควร ซึ่งคำตอบที่ได้จาก กกต. ก็จะมาใช้ประกอบในการพิจารณาว่าสมควรที่จะเดินหน้ายื่น ป.ป.ช. เรื่องความผิดทางมาตรฐานจริยธรรมหรือไม่
นายสมชัย กล่าวอีกว่า 2.กรณีคลิปสนทนาของนายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรมต.ประจำนายกฯ และอดีตประธานอนุกรรมการแก้ปัญหาการขายสลากแพง ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา มีการยืมเงิน 15 ล้านบาท และใช้จ่ายเงินในการเลือกตั้ง 100 ล้านบาท อีกทั้งมีการพูดเชิงสนับสนุนจากนางจุรีพร สินธุไพร ข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกฯ จึงอยากให้ กกต.ได้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ซึ่งการพูดดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิด 3 กรณี คือ 1) การใช้จ่ายเงินเกินกว่า 1.5 ล้านบาทตามกรอบของกฎหมายกำหนดหรือไม่ เมื่อวานนี้คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ได้เรียก กกต.มาชี้แจง มีการสอบถามว่านายเสกสกลได้รายงานค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเป็นเงินเท่าไหร่ ได้รับคำตอบว่า 8 แสนกว่าบาท ซึ่งถ้ามีการใช้เงินเป็นร้อยล้านบาท หมายความว่าใช้จ่ายเกินกฎหมายกำหนด รวมถึง 2) การรายงานค่าใช้จ่ายเป็นเท็จ และ 3) จะมีแนวโน้มทำผิดกฎหมายเลือกตั้งมาตรา 73 (1) เรื่องการใช้เงินซื้อเสียงหรือไม่