สธ.-ศธ.วางมาตรการรับเปิดเทอม เด็กติดเชื้อเรียนออนไซต์ได้ ผ่านควอรันทีนโซน เร่งฉีดวัคซีนอย่างน้อย 60 % เน้นสถานศึกษาจัดทำแผนเผชิญเหตุกรณีพบการติดเชื้อในเด็กต้องไม่ปิดชั้นเรียนหรือโรงเรียน แต่มีระบบสนับสนุนให้สามารถเรียนได้
เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่กระทรวงสาธารณสุข นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข กล่าวประชุมชี้แจงมาตรการเปิดเรียน On-Site ปลอดภัย อยู่ได้กับโควิด- 19 ในสถานศึกษารับเปิดภาคเรียนที่ 1/2565 ว่า สธ.ได้ร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการวางมาตราการรองรับการเปิดภาคเรียนออนไซต์เต็มรูปแบบวันที่ 17 พ.ค.นี้ โดยเน้นย้ำ 4 มาตรการสำคัญคือ 1. เร่งรัดการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมอย่างน้อย 60 % ทั้งเข็มพื้นฐานและเข็มกระตุ้น แม้จะเป็นความสมัครใจแต่ให้แนะนำทำความเข้าใจผู้ปกครองเพื่อลดความเสี่ยง
2.ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหารือศูนย์อนามัย ร.ร.ทุกระดับในพื้นที่ประเมินความพร้อมผ่านระบบ Thai Stop Covid Plus ต้องผ่านเกณฑ์ไม่น้อยกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ 3.ปรับการตรวจ ATK เฉพาะเมื่อมีอาการหรือมีความเสี่ยง และ 4. จัดทำแผนเผชิญเหตุกรณีพบการติดเชื้อในเด็ก จะต้องไม่ปิดชั้นเรียนหรือโรงเรียน แต่มีระบบสนับสนุนให้สามารถเรียนได้
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สถานการณ์ติดเชื้อในเด็กต่ำกว่า 19 ปีภาพรวมตั้งแต่ 1 เม.ย.65 ติดเชื้อ 13.7 เปอร์เซ็นต์ เสียชีวิตไม่มาก ส่วนการฉีดวัคซีนในเด็กมัธยมศึกษาฉีดเข็ม 1 และเข็ม 2 ไม่น้อยกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ แต่เข็มกระตุ้นยังต้องเร่งรัดเพราะฉีดไม่ถึง 6 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเด็กประถมศึกษา 5-11 ปี ฉีดเข็ม 1 ครอบคลุม 53 เปอร์เซ็นต์ เข็ม 2 ฉีด 13 เปอร์เซ็นต์ ต้องเร่งรัด
สำหรับมาตรการเปิดเรียนออนไซต์สำหรับโรงเรียนประจำ เน้น Sandbox Safety zone in School กรณีเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ ให้เปิดเรียนปกติ โดยป้องกันตนเองครอบจักรวาล ประเมิน Thai Save Thai (TST) เว้นระยะห่างในห้องอย่างน้อย 1 เมตร กรณีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงให้จัดการเรียน การสอนในควอรันทีนโซน 5 วัน จากนั้นออกมาสังเกตอาการอีก 5 วัน กรณีได้รับวัคซีนครบและไม่มีอาการไม่แนะนำให้กักตัว ทั้งนี้ให้ตรวจ ATK ในวันที่ 5 และ 10 ส่วนกรณีผู้ติดเชื้อ ให้หารือหน่วยบริการสาธารณสุขในการแยกกักตัวในโรงเรียน หากไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย ให้จัดการเรียนการสอนตามความเหมาะสม เว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร งดร่วมกลุ่ม
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า สำหรับโรงเรียนไป-กลับ กรณีผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ ให้เรียนตามปกติ ป้องกันตนเองครอบจักรวาล ประเมิน TST เว้นระยะห่างในห้องอย่างน้อย 1 เมตร กรณีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงหากยังไม่ได้รับวัดซีน ไม่มีอาการ แนะนำให้กักตัวเองเป็นเวลา 5 วันและติดตามหลังจากนั้นอีก 5 วัน กรณีได้รับวัคซีนครบและไม่มีอาการไม่ต้องกักตัว มาเรียนได้ โดยให้ตรวจ ATK วันที่ 1 , 5 และ 10 หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อ สถานศึกษาจัดให้เรียนตามความเหมาะสม เว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร กรณีติดเชื้อให้แยกกักตัวที่บ้าน หรือพิจารณากักตัวที่โรงเรียน โดยคณะกรรมการสถานศึกษาและหน่วยงานสาธารณสุข และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด กรณีเป็นผู้ติดเชื้อมีอาการให้พิจารณาจัดรูปแบบการเรียนการสอนอย่างเหมาะสม ย้ำเปิดเรียนตามปกติ แต่ให้ทำความสะอาดห้องเรียน ชั้นเรียน สถานศึกษา
ด้าน ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ได้ย้ำศึกษาธิการจังหวัดทุกจังหวัดวางแผนนำเด็กเข้ารับวัคซีนตามเกณฑ์กำหนด ทั้งนี้ศธ.และสธ.มีความพร้อมเต็มที่กับการเปิดภาคเรียนออนไซต์วันที่17 พ.ค.อย่างมาก มีการดำเนินตามมาตรการเคร่งครัด.
