“โฆษกรบ.”แนะฝ่ายค้านทบทวนตัวเอง ขีดเส้นตายให้รัฐบาลไม่ใช่หน้าที่ของฝ่ายค้าน ย้อน ส.ค.อาจเป็นการขีดเส้นตายให้ฝ่ายค้านไม่มีที่ยืนในสายตาประชาชนฝ
เมื่อวันที่ 7 พ.ค.65 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคร่วมฝ่ายค้านขีดเส้นตายเดือนสิงหาคม รัฐบาลต้องออกไป เพราะไร้ศักยภาพ ทำคนจนพุ่ง-หนี้ท่วม ฉุดประเทศถึงจุดต่ำสุด ว่า หากประเทศไทยกำลังอยู่ในจุดที่ต่ำที่สุดนั้น คงเป็นจุดที่ประเทศไทยมีฝ่ายค้าน แต่กลับไม่รู้จักการทำหน้าที่ของตัวเอง งานสภาฯไม่ทำ นิยมแต่งานผสมโรงล้มรัฐบาลเป็นหลัก ทั้งหมดเพียงเพื่อหวังจะให้ตัวเองได้กลับมามีอำนาจ โดยไม่สนว่าจะเป็นวิธีไหน หรือประชาชนกำลังเดือดร้อนขนาดไหนก็ตาม
ทั้งนี้ การอ้างว่ารัฐบาลบริหารและออกมาตรการที่ผิดพลาด ควบคุมโรคระบาดแบบไร้ทิศทาง กระทำเสมือนชีวิตของประชาชนนั้นไร้ค่า ไร้ความหมายนั้น ยืนยันว่าทุกนโยบายของรัฐบาลท่านนายกฯ รับฟังความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องก่อนจะออกมาเป็นมาตรการต่างๆ ดังนั้นน่าจะเป็นฝ่ายค้านมากกว่า ที่ปิดหูปิดตา ไม่ยอมรับความเป็นจริง จนตัวเองต้องหลงทิศหลงทาง ทั้งที่ทั่วโลกชื่นชมการแก้ปัญหาโควิด-19ของรัฐบาลว่าทำได้ดีมากสร้างความสมดุลระหว่างการป้องกันรักษาโควิดกับการฟื้นเศรษฐกิจ
“การขีดเส้นตายการทำงานของรัฐบาลนั้นไม่ใช่หน้าที่ของฝ่ายค้าน แต่เป็นอำนาจของประชาชน ผ่านการตัดสินใจของ ส.ส.ส่วนใหญ่ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ฝ่ายค้านอาจจะยังติดนิสัยใช้อำนาจสั่งการโดยใครเพียงคนใดคนหนึ่ง เหมือนกับที่ผ่านมาในอดีตที่มีทั้งสภาฯทาส และสภาฯ ผัวเมีย สุดท้ายประชาชนทนไม่ไหว ออกมากดดันจนฝ่ายค้านจนฝ่ายค้านต้องคืนอำนาจและประชาธิปไตยให้กับประชาชน หากฝ่ายค้านคิดถึงประชาชนก่อนคิดถึงตัวเองจริงๆ ก็ควรทบทวนการทำหน้าที่ของตัวเองตลอด 8 ปีที่ผ่านมาว่า งานไหนบ้างที่ทำเพื่อประชาชน และงานไหนบ้างที่ทำเพื่อตัวเองให้ได้กลับมามีอำนาจอีกครั้ง หากยังคิดไม่ได้เดือนสิงหาคม อาจกลายเป็นการขีดเส้นตายให้ฝ่ายค้านไม่มีที่ยืนในสายตาประชาชนก็เป็นได้” นายธนกร กล่าว
