หลังสถานการณ์ชายแดนสุรินทร์ยังตึงเครียด นายกรัฐมนตรีเผยประชุม สมช. ประเมินเข้มข้น พร้อมลงพื้นที่เยี่ยมทหารบาดเจ็บ ยืนยันมาตรการที่ออกถือว่า “เข้มข้นมากพอแล้ว” ระงับข้อตกลงสันติภาพกับกัมพูชาไปก่อน จนกว่ากองทัพไทยจะเห็นว่า “อีกฝ่ายหมดพฤติกรรมเป็นศัตรู”
เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 11 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ที่ยังคงตึงเครียด หลังมีเสียงวิพากษ์จากหลายฝ่ายว่ามาตรการของรัฐบาลอาจ “เบาเกินไป”
นายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ในช่วงเช้าวันเดียวกันได้มีการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อประเมินสถานการณ์ พร้อมยืนยันว่าจะลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะบริเวณชายแดน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรอบระยะเวลาการระงับ “ปฏิญญาร่วมไทย–กัมพูชา (Joint Declaration)” นายกรัฐมนตรีระบุว่า มาตรการดังกล่าวจะคงอยู่ “จนกว่ากองทัพไทยจะประเมินเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามไม่มีท่าทีเป็นปฏิปักษ์อีกต่อไป”
ส่วนกรณีที่กัมพูชาออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นฝ่ายวางทุ่นระเบิดในพื้นที่ นายกรัฐมนตรีตอบสั้น ๆ ว่า “ประเทศไทยไม่มีระเบิดแบบนั้น”
สำหรับคำถามว่าไทยจะมีท่าทีตอบโต้กัมพูชาอย่างไร หลังอีกฝ่ายออกแถลงการณ์สื่อว่าประเทศไทยผิดข้อตกลง นายอนุทินปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในประเด็นดังกล่าว
เมื่อถูกถามถึงความรู้สึกต่อกรณีที่ทั้งสองประเทศเคยร่วมลงนามในข้อตกลงสันติภาพ แต่กัมพูชาไม่ปฏิบัติตาม นายกรัฐมนตรีกล่าวเพียงว่า ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ให้สัมภาษณ์และชี้แจงรายละเอียดแทน
ส่วนความพึงพอใจต่อมาตรการของ สมช. ที่ออกมาในวันนี้ นายอนุทินยืนยันว่า มาตรการที่ประกาศใช้ถือว่า “เข้มข้นมากแล้ว” สอดคล้องกับแนวทางที่รัฐบาลได้วางไว้ หลังรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย พร้อมเผยว่า “ขณะนี้ไทยไม่ได้ดำเนินการตามเงื่อนไข 4 ข้อในปฏิญญาดังกล่าวแล้ว”
