วันอาทิตย์, กันยายน 29, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWS“ประวิตร”ไฟเขียวโครงการรถโดยสารประจําทางไฟฟ้า เพื่อลดก๊าซคาร์บอน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ประวิตร”ไฟเขียวโครงการรถโดยสารประจําทางไฟฟ้า เพื่อลดก๊าซคาร์บอน

“ประวิตร” ถก “กนภ.” ขับเคลื่อนพลังงานภาคขนส่ง ห่วงสุขภาพประชาชน สนับสนุนลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก-ลดฝุ่น PM 2.5

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 1 มิ.ย. 65 ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบาย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ (กนภ.) ครั้งที่ 2/2565 โดยมีนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทําหน้าที่ รองประธานกรรมการคนที่ 1 เข้าร่วมด้วย

โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ที่ประชุมมีการพิจารณาเรื่องที่สําคัญในการขับเคลื่อนการดําเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย ดังนี้ มีมติเห็นชอบต่อรายละเอียดการดําเนินงาน โครงการเปลี่ยนรถโดยสารประจําทางสาธารณะของภาคเอกชน เป็นรถโดยสารประจําทางไฟฟ้า (รถร่วมบริการ) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นํารายละเอียดการดําเนินงานของโครงการดังกล่าว เสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบตามขั้นตอนต่อไป โดยโครงการดังกล่าว จะสนับสนุนการลดการ ปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ ประมาณ 500,000 ตันคาร์บอนออกไซด์เทียบเท่า ตลอดอายุโครงการ 10 ปี และช่วยลด มลพิษฝุ่น PM 2.5 เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีของคนกรุงเทพฯ และปริมณฑล นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในภาคขนส่ง ก่อให้เกิดการลงทุนในธุรกิจการผลิต รถไฟฟ้าและแบตเตอรี่ในประเทศ ประมาณ 8,500 ล้านบาท และกระตุ้นให้เกิดการนํารถยนต์สาธารณะไฟฟ้ามาใช้ ในประเทศได้เร็วขึ้น

พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ มีมติรับทราบ ความคืบหน้า การดําเนินโครงการกลไกเครดิตร่วม Joint Crediting Mechanism (JCM) ภายใต้ความร่วมมือทวิภาคีระหว่างประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น โดยปัจจุบัน มีโครงการที่ได้รับการรับรอง ปริมาณคาร์บอนเครดิต จํานวน 5 โครงการ คิดเป็น 4,032 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ก่อให้เกิดการลงทุน ภายใต้กลไกดังกล่าว ประมาณ 487 ล้านบาท ซึ่งการบูรณาการความร่วมมือในการจัดการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อประเทศไทยบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อบรรลุเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจก 1 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ภายในปี พ.ศ.2566 ทั้งนี้ ขอให้ฝ่ายเลขาฯ นำข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะของคณะกรรมการไปสรุป และรายงานผลการดำเนินงาน ให้ที่ประชุมทราบอย่างสม่ำเสมอ

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img