วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlightน้ำมันพุ่งหนุน“เงินเฟ้อ”พีคสุดไตรมาส 3
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

น้ำมันพุ่งหนุน“เงินเฟ้อ”พีคสุดไตรมาส 3

คลังคาดเงินเฟ้อพุ่งสูงสุดไตรมาสของปีนี้ มองทั้งปีโต 5% หลังราคาน้ำมันดีดปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากสงครามรัส เซีย-ยูเครน ชี้ไทยเป็นแหล่งผลิตอาหาร-ภาครัฐตรึงราคาพลังงานคุมราคาสินค้าไม่ให้ขึ้นสูงจนเกินไป

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังแจ้งว่า เงินเฟ้อจะสูงสุดในไตรมาสที่สามของปีนี้ เป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่เป็นความเสี่ยงในการกดดันเงินเฟ้อจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อ โดยคลังใช้สมมุติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยทั้งปีที่ 99.5 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และขณะนี้ยังอยู่ที่ 97 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลและตอนนี้ยังมีแนวโน้มทรงตัว ดังนั้นกระทรวงการคลังจึงยังยึดกรอบเงินเฟ้อช่วง 4.5 -5.5% เป็นฐาน คาดค่าเฉลี่ยทั้งปีที่ 5%

สำหรับระดับเงินเฟ้อของไทยที่ยังไม่สูงมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นนั่น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตอาหาร และการที่รัฐบาลเข้าไปแทรกแซงกลไกตลาดในบางสินค้า เพื่อควบคุมไม่ให้ระดับราคาสินค้าปรับเพิ่มสูงมากจนเกินไป รวมถึง มาตรการอุดหนุนด้านพลังงานของรัฐบาล

ทั้งนี้ รัฐบาลได้ใช้มาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซล ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงสำคัญในการผลิตสินค้า และขนส่งสินค้าภายในประเทศ โดยที่ผ่านมาได้ตรึงราคาให้อยู่ในระดับไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร แต่หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นจากผลกระทบของสงครามรัสเซียและยูเครน ทำให้รัฐบาลประกาศขยับเพดานราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลสูงสุดไม่เกิน 35 บาทต่อลิตร โดยส่วนที่เกินกว่า 30 บาท รัฐบาลและประชาชนจะร่วมกันออกคนละครึ่ง โดยรัฐบาลได้ใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการอุดหนุนราคาพลังงานในประเทศ ปัจจุบันกองทุนนี้มีผลขาดทุนติดลบอยู่กว่า 8 หมื่นล้านบาท

ส่วนการรายงานระดับเงินเฟ้อของกองดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ รายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนเม.ย.นี้ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนสูงขึ้น 4.65%เป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่สูงขึ้น 5.73% เนื่องจากฐานที่สูงขึ้นของค่ากระแสไฟฟ้าจากการสิ้นสุดมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนในปี 2564 ประกอบกับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเริ่มชะลอตัวลง นอกจากนี้ มีสินค้าสำคัญอื่นๆ ที่ราคาลดลง ได้แก่ ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว ผลไม้สด และเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม มีสินค้าที่ราคาสูงขึ้น อาทิ ก๊าซหุงต้มที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นจากการสิ้นสุดระยะเวลาตรึงราคาโดยมีการทยอยปรับขึ้นราคาแบบขั้นบันได และสินค้าในกลุ่มอาหาร โดยเฉพาะเนื้อสุกร ไก่สด ไข่ไก่ น้ำมันพืช อาหารบริโภคในบ้าน-นอกบ้าน ตามต้นทุนการผลิตและต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น

ขณะที่ ราคาสินค้าและบริการในหมวดอื่น ๆ ส่วนใหญ่ยังทรงตัวและเคลื่อนไหวในทิศทางปกติสอดคล้องกับพฤติกรรมการบริโภคของประชาชน เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออกแล้ว เงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัวที่ 2% และเฉลี่ย 4 เดือน (ม.ค.-เม.ย.) 2565 เงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้น 4.71% และเงินเฟ้อพื้นฐานสูงขึ้น 1.58%

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img