“บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” แจ้งข่าวอดีตพระเอกดัง “สุริยา ชินพันธุ์” เสียชีวิตแล้ว ในวัย 69 ปีหลังเข้ารับการรักษาตัวในห้องไอซียูเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ได้ออกมาแจ้งข่าวเศร้าว่า อดีตพระเอกดัง ตุ้ย-สุริยา ชินพันธุ์ วัย 69 ปี ได้เสียชีวิตลงแล้ว “ในที่สุดก็ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้.. ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของพี่ตุ้ย สุริยา ชินพันธ์ ด้วย 69 ปี รายละเอียดรอภรรยาพี่ตุ้ยแจ้งให้ทราบอีกที่ครับ”
สำหรับประวัติ สุริยา ชินพันธุ์ มีชื่อจริงคือ ธนยศ ชินพันธุ์ ชื่อเดิม: ประมูล ชินพันธุ์ มีชื่อเล่นว่า “ตุ้ย” หรือ “เอ” เกิดเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2495 ที่อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เป็นลูกชายคนที่ 3 ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 6 คนซึ่งเป็นชาย 4 หญิง 2 ในบรรดาลูก ๆ ของนายวิบูลย์และนางจิตรา ชินพันธุ์
สำเร็จการศึกษาระดับ มศ.3 จากโรงเรียนอุดรพิทยานุกูล เมื่อจบแล้วได้ช่วยกิจการทางบ้าน คือคุมรถโดยสารระหว่างจังหวัด บางครั้งก็ทำหน้าที่พนักงานขับเอง จนกระทั่งอายุได้ 17 ปี อยากเป็นทหาร จึงไปสมัครเป็นทหารที่จังหวัดลพบุรี แต่สอบตกสัมภาษณ์ จึงไปหาอาซึ่งเป็นนายแพทย์ที่จังหวัดนครสวรรค์ ชื่อ น.พ.จรูญ ชินพันธุ์ ช่วยดูแลคนไข้ในคลินิกของอาที่ตัวอำเภอเมืองนครสวรรค์ ด้วยความที่ชื่นชอบเพลงลูกทุ่ง ประกอบกับมีหน่วยก้านพอที่จะเป็นดาราได้ อาจึงฝากฝังให้ ในที่สุดก็ได้เข้ากรุงเทพฯเพื่อฝึกการเป็นนักแสดง พร้อมกับ นัยนา ชีวานันท์ ที่วังละโว้ ของ หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล (ท่านมุ้ย) โดยทำการฝึกพร้อมกับ สรพงษ์ ชาตรี โดยครั้งนี้ถือเป็นการเดินทางเข้ากรุงเทพฯเป็นครั้งแรกในชีวิตของสุริยาด้วย
เมื่อเข้ามาในกรุงเทพฯ ได้อยู่ในสังกัดของช่อง 4 บางขุนพรหม โดยระยะแรกใช้ชื่อจริงเลยว่า “ประมูล ชินพันธุ์” ได้ร้องเพลงลูกทุ่งกรุงไทย เมื่อเริ่มมีชื่อเสียงบ้างแล้ว จึงได้ลองเล่นละครโทรทัศน์เรื่องแรก คือ “เลือดทาแผ่นดิน” พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น “สุริยา ชินพันธุ์” จากการตั้งชื่อให้ของ สุวัฒน์ วรดิลก พร้อมกับฝึกฝนการแสดงไปด้วย เช่นการฝึกกระบี่กระบองในละครแนวจักร ๆ วงศ์ ๆ กับ กำธร สุวรรณปิยะศิริ
มีโอกาสแสดงภาพยนตร์ครั้งแรกจากเรื่อง “สวนสน” จากการชักชวนของ ชาลี อินทรวิจิตร โดยประกบคู่กับ ช้องมาศ ภุมรา ซึ่งเป็นนางเอก ทำให้มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก จากนั้นก็มีผลงานออกมาเรื่อย ๆ ตามมาทั้งภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ เช่น “ผยอง”, “ลูกเจ้าพระยา”, “มือปืนนมสด”, “นักเลงสามสลึง” และที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด คือ “มนต์รักแม่น้ำมูล” ในปี พ.ศ. 2521 ซึ่งเจ้าตัวได้ร้องเพลงประกอบเรื่องไว้ด้วย โดยแสดงประกบคู่กับ กรุง ศรีวิไล ซึ่งเป็นพระเอกอีกคนด้วย
หลังจากนั้น สุริยา ชินพันธุ์ ก็ได้มีผลงานทางละครโทรทัศน์แนวจักร ๆ วงศ์ ๆ อีกหลายเรื่องทาง ช่อง 7 เช่น “สิงหไกรภพ” (คู่กับ ดวงพร เอกศาสตร์), “ไชยเชษฐ์” (คู่กับ ผุสรัตน์ ดารา) กับช่อง 3 เช่น “ชะนีน้อย” (คู่กับ ผุสรัตน์ ดารา) ฯลฯ โดยเป็นทั้งผู้จัด, ผู้กำกับฯ และแสดงเอง และได้รับรางวัลเมขลาจากเรื่อง “โอรสหมาป่า”
ในส่วนของผลงานเพลง สุริยา ชินพันธุ์ ยังเป็นเจ้าของเสียงต้นฉบับในเพลง “รักเก่าที่บ้านเกิด” เป็นคนแรกอีกด้วย ซึ่งเพลงนี้ต่อมาได้มีนักร้องในรุ่นหลังหลายคนนำกลับมาร้องใหม่ และต่อมาได้ก่อตั้งวงดนตรีลูกทุ่งขึ้นมาด้วย ประสบความสำเร็จอยู่ได้ 3 ปีก่อนจะยุบวงลงในที่สุด พร้อมกับปัญหาสุขภาพที่เข้ามา
ชีวิตครอบครัว สุริยา ชินพันธุ์ สมรสกับ ระพีพรรณ เปรมรัศมี มีบุตรด้วยกันทั้งหมด 2 คน เป็นชาย 1 หญิง 1 ซึ่งมีครอบครัวกันหมดแล้ว ชีวิตปัจจุบัน สุริยา ชินพันธุ์ ไม่ได้มีผลงานในวงการบันเทิงอีกแล้วเนื่องจากก่อนหน้านี้ได้ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองอุดตัน จนกระทั่งมีอาการอัมพฤกษ์ ภรรยาก็เลิกรากันไป จึงได้รับความช่วยเหลือจาก สรพงษ์ ชาตรี เพื่อนนักแสดงร่วมรุ่น เมื่อหายเป็นปกติ สุริยาหาเลี้ยงชีพด้วยอาชีพสารพัด ทั้งขับแท็กซี่, ทำร้านอาหาร, เป็นผู้จัดละครโทรทัศน์
ปัจจุบัน ป่วยเป็นโรคไวรัสซีที่ตับ และอีกหลายโรค ต้องรับประทานยาเป็นจำนวนมากและเข้ารับตรวจสุขภาพเป็นประจำในทุกเดือน ต้องหาเลี้ยงชีพด้วยการขายรองเท้ามือสองและเสื้อผ้ามือสองตามตลาดนัดจังหวัดต่าง ๆ และรับจ้างร้องเพลงบ้างตามงานต่าง ๆ แล้วแต่ผู้ว่าจ้าง และได้อยู่กินกับ บูรพา ชินพันธุ์ ภรรยาคนปัจจุบันมานานกว่า 20 ปี ซึ่งทั้งคู่ไม่มีบุตรด้วยกัน ที่บ้านพักส่วนตัวที่ย่านคลองสาม ตำบลลาดสวาย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี โดยภรรยาไม่ได้ทำงานเนื่องจากเคยป่วยเป็นมะเร็งมาก่อนเหมือนกัน และลาออกจากงานประจำเพื่อดูแลสุริยาโดยเฉพาะ ทำให้สุริยาต้องเป็นเรี่ยวแรงหลักในการหาเลี้ยงชีพแต่เพียงผู้เดียว และเคยขึ้นคอนเสิร์ต เอกชัย ศรีวิชัย พ.ศ. 2546-2548