สธ.ประกาศ Move on จากโควิด ไทยพ้นระบาดใหญ่สู่โรคประจำถิ่น “อนุทิน” เอาเกียรติการันตี “วัคซีนทองคำ” ไม่ใช่ขยะ ไม่มีใครปัญญาอ่อนเอาไปทิ้ง ลั่นอย่าเอาชีวิตปชช.มาต่อรอง
เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.65 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข (สธ.) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดสธ. พร้อมด้วยคณะผู้บริหารสธ. ได้จัดกิจกรรมพบปะสื่อมวลชน และแถลง “Move on จากโควิด ใช้ชีวิตแบบมั่นใจ” พร้อมอ่านสาส์นถึงบุคคลากรสาธารณสุขทั่วประเทศ โดยขอให้ทุกจังหวัดเร่งจัดทำแผนปฏิบัติการภายใต้แผนยุทธศาสตร์การเตรียมความพร้อมในเข้าสู่การเป็นโรคประจําถิ่น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยในช่วงหลังการระบาดของโรคโควิด 19
นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้เป็นเวลาที่เราจะต้องมีการสื่อสารเพิ่มเติมเพื่อเตรียมความพร้อมประชาชนและประเทศไทยในการปรับวิถีชีวิตไปสู่การเป็นโรคประจำถิ่น ซึ่งการเป็นโรคประจำถิ่นไม่ได้หมายความว่าความรุนแรงลดลง แต่เป็นโรคที่จะต้องอยู่กับเรา และเราต้องอยู่กับมัน แต่การเป็นโรคประจำถิ่นจะทำให้เรามีความคุ้นชินและเข้าใจในการปฏิบัติตนให้เกิดความปลอดภัย เลี่ยงความเสี่ยงในการติดเชื้อ แต่ยังมีปัญหาคนจำนวนมากยังไม่ฉีดวัคซีน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขเร่งรณรงค์ให้คนที่ยังไม่ยอมฉีดวัคซีนมาฉีดวัคซีนต่อไป
“ผมมีความพยายามที่จะคืนความเป็นปกติสุขให้พี่น้องประชาชนมากที่สุด ในการพูดถึงการถอดหน้ากาก การกลับมาช่วยชีวิตปกติ การเปิดทุกอย่างไม่ต้องมีข้อจำกัดใด ๆ ก็เป็นเป้าหมายของกระทรวงสาธารณสุขเหมือนกัน เพียงแต่เราต้องใช้ความเข้าใจของสถานการณ์ ของแต่ละคนด้วย ถ้ามีความเสี่ยงก็ประเมินได้ ถ้าเสี่ยงก็หยิบหน้ากากมาใส่ได้เป็น Option แต่คงไม่มีประกาศว่าจะต้องถอดหรือว่าใส่หน้ากากอะไรออกมา ใครจะใส่ก็ใส่ ใครจะถอดก็ถอดอยู่ที่การประเมินสถานการณ์ของแต่ละคน” นายอนุทิน กล่าว
รองนายกฯ กล่าวต่อว่า กรณีมีวัคซีนไม่ใช่คนออกมาพูดว่า ขยะวัคซีน เป็นของไม่ดี คนที่เขียนก็เป็นคนในสธ. แต่ยืนยันว่านี่ไม่ใช่ขยะ แต่เป็นทองคำ และเอาไปไว้ในเครือข่ายเพื่อไปบริการประชาชน ไม่มีใครปัญญาอ่อนพอที่จะทิ้งวัคซีนซึ่งเป็นของมีค่า ที่ควรเอาไปไว้ในร่างกายประชาชนให้เกิดความปลอดภัย ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ ลดอาการหนัก และลดความเสี่ยงในการเสียชีวิต ซึ่งขยะคงไม่สามารถบันดาลให้เกิดสิ่งที่ดีเหล่านี้แก่มนุษย์ได้ ดังนั้น ทั้งนี้ขอให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขทำความเข้าใจเรื่องนี้แก่ผู้ปฏิบัติงานภายใต้บังคับบัญชาให้เข้าใจ ใครยังไม่เข้าใจขอให้เชิญตัวมาอธิบายให้ฟังจากคนที่มีความรู้ทางด้านวิชาการ
ในฐานะที่เป็นรมว.สาธารณสุข ขอให้คำยืนยันด้วยเกียรติยศทุกอย่างที่มีว่า กระทรวงสาธารณสุขจัดวัคซีน จัดเวชภัณฑ์ จัดยา ทุกอย่างที่มีประโยชน์ มีสรรพคุณสามารถรักษาประชาชนได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคโควิดหรือโรคใด ๆ ก็แล้วแต่ ไม่มียาหยวน ๆ ที่เอามาใช้เพื่อบรรเทาอาการไปก่อน ลดอาการไปก่อน แล้วค่อยว่ากันทีหลัง มีแต่ยาที่เอามารักษาให้หายจากการเจ็บป่วย มีวัคซีนที่ป้องกันให้รอดพ้นจากการติดเชื้อทุกโรค ดังนั้นขอให้พี่น้องประชาชนเกิดความมั่นใจ
“ประเทศต่าง ๆ ตามชื่นชมไทย แต่มีแต่คนไทยเท่านั้นแหละ ที่ยังไม่พอใจ ดังนั้นต้องสร้างความเข้าใจให้ภายในทิศทางเดียวกัน จะเอาสุขภาพของประชาชนมาเล่นไม่ได้ เอามาเป็นตัวประกันไม่ได้ เอามาเป็นสิ่งที่ต่อรองอะไรกันไม่ได้ทั้งนั้น เรื่องสุขภาพของประชาชนหากเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ไม่มีการต่อรอง เราต้องยืนยันในเจตนารมณ์ทิศทางของเราเท่านั้น” นายอนุทิน กล่าว
ด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สธ.แนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งป้องกันโรคต่าง ๆ ได้ และได้เสนอเข้าที่ประชุมศบค.เพื่อพิจารณาแล้ว ทั้งกรณีกลุ่มเสี่ยง สถานที่เสี่ยง กิจกรรมเสี่ยง ทั้งนี้ ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีโควิด-19 หรืออีโอซี มีการพิจารณาสถานการณ์ดีขึ้นเป็นไปตามแผน โรคนี้น่าจะเข้าสู่ระยะท้าย ๆ แล้ว ทุกจังหวัดเข้าสู่ระยะ declining ไม่มีการระบาดใหญ่ เปิดเทอมก็ไม่พบปัญหา เปิดสถานบันเทิงก็ยังไม่พบปัญหา แต่เฝ้าระวังต่อว่าจะมีปัญหาในอนาคตหรือไม่ แต่มีการประเมิน คาดการณ์โดยผู้เชี่ยวชาญระบุว่าเราผ่านระยะการระบาดใหญ่มาแล้ว สามารถเข้าสู่การดูแล เฝ้าระวังตามสมควร ส่วนจะประกาศลดระดับการเตือนภัยโควิดหรือไม่นั้น รอดูสถานการณ์หลังเปิดผับบาร์ก่อน คาดว่ากลางเดือนมิ.ย.นี้.