นายกฯ ลุยผักไห่ อยุธยา ตรวจน้ำท่วมภาคกลาง รับบริหารจัดการน้ำยังไม่สมบูรณ์ สั่งเร่งเยียวยาผู้ประสบภัยรายเดือน ย้ำ “ปีหน้าถ้ารัฐบาลทำงานไม่ดี ไม่ต้องเลือกกลับมา”
เมื่อเวลา 14.12 น. วันที่ 12 พ.ย. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะ เดินทางถึงพื้นที่ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคกลาง โดยมีประชาชนมารอต้อนรับ
นายกรัฐมนตรีกล่าวกับประชาชนว่า รัฐบาลรับทราบถึงปัญหาน้ำท่วมที่ยาวนานกว่าทุกปี และได้มอบหมายให้รัฐมนตรีประจำเขตพื้นที่แต่ละจังหวัดติดตามและตัดสินใจแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ยอมรับว่าการบริหารจัดการน้ำยังมีจุดบกพร่องหลายส่วน แต่จะเร่งดำเนินการอนุมัติโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้มากที่สุด พร้อมชื่นชมชาวบ้านที่เสียสละพื้นที่ทำกินเป็นพื้นที่รับน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมในเขตเศรษฐกิจ
“แม้เราจะสู้ธรรมชาติได้ไม่ทั้งหมด แต่ผมจะทำให้ดีที่สุด เพื่อให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด” นายอนุทินกล่าว
นายกรัฐมนตรีระบุว่า ปัจจุบันปริมาณฝนเริ่มลดลง คาดว่าใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า สถานการณ์จะดีขึ้น พร้อมสั่งการให้นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จัดงบเยียวยาเพิ่มเติมจากเดิม 9,000 บาท โดยจะดูแลแบบ “ขั้นบันได” สำหรับครัวเรือนที่ถูกน้ำท่วมยาวนานเป็นรายเดือน และยืนยันว่าจะใช้งบกลางเร่งช่วยเหลือประชาชนโดยตรงให้เร็วที่สุด
“ผมจะเร่งให้ภายใน 2 สัปดาห์ เงินเยียวยาจะถึงมือพี่น้องแน่นอน” นายกฯ ย้ำ
พร้อมกันนี้ นายอนุทินยังกล่าวถึงภารกิจส่วนตัวว่า แม้งานจะรัดตัวแต่จำเป็นต้องลงพื้นที่ด้วยตนเอง เพื่อรับรู้ปัญหาอย่างแท้จริง และสามารถสั่งการได้ตรงจุด
“ตอนเป็น รมว.มหาดไทย สั่งได้แค่บางเรื่อง วันนี้เป็นนายกฯ แล้ว สั่งได้หมด ใครไม่ทำ น่าดู! ปีหน้าจะยุบสภา 31 ม.ค. คืนอำนาจให้ประชาชน ถ้าผมทำไม่ดี ก็ไม่ต้องเลือกกลับมา แต่ถ้าคิดว่าผมทำดี ก็เลือกให้ครบ จะได้มาทำต่อ” นายอนุทินกล่าว พร้อมพูดติดตลกว่า “ถ้าไม่เลือกผม ผมก็ไปขายของเซเว่น หรือขายก๋วยเตี๋ยว ไม่มีปัญหา”
ก่อนกลับ นายกรัฐมนตรีได้มอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ และเดินมอบให้กับประชาชนที่พายเรือมารับด้วยตนเอง รวม 3 ลำ
ต่อมาเวลา 15.00 น. นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมติดตามการบริหารจัดการน้ำและการแก้ปัญหาอุทกภัยในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ว่าการอำเภอผักไห่ ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร






































